“อะไรนะ! ท้าแข่ง! ทำไมฉันต้องแข่งกับเธอด้วย?” ฉันถามกลับ ยัยนี่ท่าจะชอบการแข่งขันมากสินะ!
“ก็เพราะว่าเพื่อนเธอ มาว่าพวกฉันว่าชอบสร้างภาพและแรด ฉันเลยอยากให้ทุกคนเห็นว่าพวกฉันไม่ใช่แบบนั้น แต่เป็นพวกเธอต่างหาก” ยัยหลินสวนกลับ
“ดังนั้นฉันจึงอยากท้าพวกเธอว่าถ้าใครได้รับการโหวตมากกว่ากัน คนนั้นคือผู้ชนะ และผู้แพ้ต้องวิ่งรอบสนามสามรอบ พร้อมตะโกนว่า “เป็นจอมสร้างภาพและแรด” ว่าอย่างไร? พวกเธอจะยอมรับคำท้าไหม?”
“หรือว่า…เก่งแต่ปาก!” ยัยหลินพูดพร้อมเชิดหน้าใส่พวกฉัน
“เหลวไหล! พวกเธอเป็นคนพูดก่อนต่างหาก” ยัยมินท์สาวจอมพลัง เริ่มโวยวาย
“ไม่เป็นไรมินท์!” ฉันเดินออกมาขวางมินท์ แล้วยืนจ้องหน้ากับยัยหลิน แบบนักมวยแถลงข่าวตอนชก
“ก็ได้ถ้าพวกเธออยากจะหาเรื่องกัน! พวกเรารับคำท้า!” ฉันตอบรับคำท้าทายของพวกชอบเอาชนะ อย่างน้อยถ้าพวกฉันชนะ ยัยพวกนี้จะได้เลิกมาวุ่นวายสักที
“ตกลงงั้นทุกคนในห้องเป็นพยาน! การแข่งขันระหว่างพวกของฉันกับพวกยัยปอร์เช่ด้วย!”
“เตรียมซ้อมวิ่งไว้เยอะๆนะ เดี๋ยวจะไม่มีแรง! พวกเราไป!” ยายหลินทิ้งท้ายแล้วเดินจากไป
“พวกแกก็เตรียมปี๊บไว้ด้วยนะ! เผื่อหน้าหนาๆ จะกันความอายไม่อยู่!” ยัยหม่อนสาวเนิร์ด ยิงสวนแบบทันควัน
“เอาล่ะ! พวกเราคงต้องจริงจังกับการออกร้านมากขึ้นแล้ว!” ฉันเรียกสติทุกคนและเรียกทีมฝั่งร้านค้ามาประชุมร่วมกัน
“ก่อนอื่น! มีใครรู้บ้างว่างานนี้มันเป็นยังไงบ้าง?” ฉันถามแบบไม่อ้อมค้อม เพื่อไม่ให้เสียเวลา
“งานโรงเรียนทุกปี จะแบ่งออกเป็นการออกร้านและการแสดง” นายโจ้หัวหน้าห้องที่อยู่ทีมของฉันอธิบาย
“งานนี้เปิดให้คนภายนอกเข้ามาเที่ยวด้วย โดยทุกคนที่เข้ามาในงานจะได้รับสติ๊กเกอร์คนละ 2 ใบ สำหรับโหวตลงคะแนนโหวตทั้งการแสดงและร้านค้า ผู้ที่ได้คะแนนโหวตสูงสุดจะได้รับรางวัลจากทางโรงเรียนอีกด้วย”
“จำนวนผู้ร่วมงานในแต่ละปี จะมีประมาณสี่ถึงห้าพันคน” ยัยหม่อน มันสมองของกลุ่มเสริมข้อมูล
“แล้วพวกเราต้องเริ่มต้นจากอะไร?” ยัยไหมจอมกินถามขึ้น
“เราต้องเริ่มจากเลือกว่าจะขายอะไรและหาสปอนเซอร์” นายโจ้หัวหน้าห้องตอบ
“สปอนเซอร์!...สปอนเซอร์นี่ปกติเค้าหากันอย่างไร?” ฉันสงสัยเรื่องนี้
“ทุกๆปี รุ่นพี่ที่เคยออกร้านก็จะติดต่อตามร้านหรือธุรกิจต่างๆให้ช่วยสนับสนุนกิจกรรม โดยเน้นเป็นบริษัทของพวกศิษย์เก่าที่ทำงานหรือเป็นเจ้าของ” นายโจ้อธิบาย
“แล้วเค้าให้กันคนละเท่าไหร่?” ฉันถามต่อ
“ก็ไม่มาก เพราะเป็นงานนักเรียน ส่วนใหญ่ก็ไม่เกินหนึ่งพันบาท บางห้องก็ขอไม่ได้เงินแต่ได้เป็นสินค้ามาแทน”
“แสดงว่า…แทบทุกห้อง ต้องเรี่ยไรเงินกันลงขันเพื่อออกร้าน นั่นหมายความว่า…ก็ต้องขอพ่อกับแม่ใช่ไหม?” ฉันถามเพื่อความแน่ใจ
“ใช่! ประมาณนั้นแหละ” นายโจ้สรุป
หลังฟังเรื่องการจัดงานออกร้านของโรงเรียนนี้แล้วก็ตกใจ แม่เจ้า! ออกร้านครั้งหนึ่งใช่เงินหลายหมื่น ทีมการแสดงก็ต้องเตรียมชุดกับอุปกรณ์ก็หลายหมื่นเช่นกัน
เฮ้ย! นี่มีมันงานโรงเรียนนะ ไม่ใช่งานพบผู้ประกอบการ SME
ใช้เงินอะไรกันขนาดนี้!
แล้วถ้ารวบรวมเงินกัน เด็กทุกคนก็ต้องจ่ายโดยไม่มีเงื่อนไข เพราะถือว่าเป็นงานกลุ่ม ไม่อย่างนั้นจะถูกหาว่าไม่ให้ความร่วมมือและตัดคะแนน
ฉันล่ะสงสารผู้ปกครองจริงๆ ที่ต้องเจอแบบนี้
“ไม่! ปีนี้เราจะหาสปอนเซอร์ให้ได้ ฉันจะไม่ยอมให้พวกเราต้องไปขอเงินพ่อแม่ เพื่อมาออกร้าน เศรษฐกิจแบบนี้ทุกครอบครัวต้องใช้เงิน ไม่ควรต้องมาจ่ายอะไรแบบนี้” ฉันยื่นคำขาดในการดำเนินการ
ก็...แหม! เด็กบ้านนอกอย่างฉันเอาไปโรงเรียนวันหนึ่งยังไม่กี่สิบบาท ยายฉันขายผักวันหนึ่งได้ไม่มากและแม่ฉันเงินเดือนครูก็ไม่ได้หรูหรา แนวคิดแบบนี้มันต้องปฏิรูปกันใหม่
“แล้วเราจะหาสปอนเซอร์กันอย่างไร? ออกร้านต้องใช้เงินเยอะนะ” นายโจ้ถามขึ้น
“เรื่องสปอนเซอร์ พวกฉันจัดการเอง พวกเธอไปวางแผนเรื่องออกร้านเถอะ รับรองว่าพวกฉันทำได้แน่นอน” ฉันประกาศตัวอย่างมั่นใจแล้วพาพวก มินท์ หม่อน ไหม ออกมาวางแผนกันต่อที่อีกมุมของห้อง
“เฮ้ย! ปอ พวกเราจะไปหาสปอนเซอร์จากไหน เงินตั้งหลายหมื่น” ยัยมินท์เริ่มสงสัย
“นั่นสิ! เราเป็นแค่นักเรียนนะ ใครจะยอมให้ฟรีๆ” ยัยหม่อนสงสัยต่อ
“ใช่ๆ ถ้าหาไม่ได้นี่งานล่มแถมแพ้พวกแก็งค์ไม้ยมกด้วยนะ” ยัยไหมจอมกินบ่นออดแอด
“ไม่ต้องห่วง ฉันมีวิธีก็แล้วกัน แต่พวกแกต้องช่วยนะ” ฉันตอบด้วยความมั่นใจ
“โอเค! ช่วยเต็มที่” สามสาวตอบรับอย่างหนักแน่น
………………………….
“หลินหลิน แล้วพวกเราจะไปหาสปอนเซอร์จากที่ไหน? งานการแสดงก็ต้องใช้เงินมากอยู่นะ” ช่วงช่วง หนึ่งในเดอะแก็งค์ไม้ยมกถามขึ้น
“ไม่ต้องห่วง เราก็แค่เตรียมตัวฝึกซ้อม เรื่องสปอนเซอร์เดี๋ยวฉันบอกพ่อแค่คำเดียว ก็ได้เงินมาแล้ว” ยัยหลินตอบพลางส่องกระจกดูความสวยของตัวเอง
“อุ้ยยย! พวกเราโชคดีจริงๆที่ได้มาอยู่ทีมนี้ ไม่ต้องห่วงเรื่องสปอนเซอร์ ก็มีเวลาซ้อมเยอะขึ้น รับรองว่าพวกยัยปอร์เช่แพ้แน่ๆ พวกม้ารองบ่อน ไม่รู้จักเจียม ฮ่าๆๆๆๆ” เหล่าสาวๆในแก็งค์ไม้ยมก หัวเราะเสียงดังด้วยความมั่นใจ แล้วก็พร้อมใจกันมองมาที่กลุ่มของพวกฉัน
“ฮัดชิ่ว!” แปลกแฮะ! อยู่ดีๆฉันรู้สึกหนาวขนลุก เหมือนมีใครกำลังสาปแช่ง
………………..
และแล้วห้องของเราก็ได้ข้อสรุปเรื่องการออกร้าน สรุปว่าพวกเราจะขายเกี๊ยวซ่า เพราะง่ายและน่าจะขายได้ดี โดยจะซื้อแบบสำเร็จรูปแล้วมาทอดเอง
ส่วนทีมการแสดงก็เลือกเต้นโคฟเวอร์เพลงของวง Twits ที่เป็นศิลปินเกิร์ลกรุ๊ปชื่อดังของเกาหลีอีกหนึ่งวง
หนึ่งเดือนก่อนวันงาน ในขณะที่ทุกคนกำลังวุ่นวายอยู่นั้น พวกฉันก็มาขลุกตัวกันอยู่ที่บ้านของยัยไหมสาวจอมกิน
“ทำไมพวกแก ต้องเลือกบ้านของฉันเป็นที่สิงสถิตด้วย?” ยัยไหมบ่น ขณะที่มือกำลังพิมพ์ข้อมูลอยู่บนแป้นคีย์บอร์ด
“ก็ถ้ามาเตรียมงานที่บ้านแก พวกเราก็จะมีของกินตลอดไง จริงไหมพวกเรา!” ฉันพูดพลางหยิบขนมเข้าปาก
“ใช่ๆ อิ่มจังตังค์อยู่ครบ ฮ่าๆๆ” สองสาว มิ้นท์ หม่อน ขานเสียงรับขณะกำลังชุลมุนกับถุงขนมมากมายบนโต๊ะ
“เอ้า! ฉันปริ๊นท์เสร็จแล้ว แกจะเอาข้อมูลพวกนี้ไปทำอะไรน่ะปอ มันจะช่วยหาสปอนเซอร์ได้จริงๆหรือ?” ยัยไหมถามขึ้นพร้อมลงมาแย่งขนมกับเพื่อนข้างล่าง
“วางใจได้ พวกแกลองดูเถอะ คืนนี้แหละพวกเราจะได้เงินจากสปอนเซอร์แน่นอน” ฉันมองข้อมูลในมือ แล้วยิ้มอย่างมั่นใจ
คินนี้แหละ เตรียมตัวบันเทิงกันได้เลย
………………………