ทันทีที่รู้ว่าฉันจะพาเพื่อนไปเที่ยวบ้าน และเดินทางเข้าป่า พี่แม็กซ์กับพี่เจมส์ก็สนใจ เพราะเพิ่งซื้ออุปกรณ์แคมป์ปิ้งมาใหม่พอดี
“พวกพี่ชอบเที่ยวแบบลุยๆ ขอตามไปด้วยนะครับ เพราะว่าป่าที่พวกน้องปอร์เช่จะไปมีจุดกางเต้นท์ที่สวยมาก” พี่แม็กซ์กับพี่เจมส์บอกกับฉันในวันที่รู้ข่าวจากสามสาวตระกูล ม.ม้า
และข่าวที่พี่ทั้งสองคนจะไปด้วย ก็ลอยเข้าหูของยัยหลินอย่างรวดเร็ว แก๊งค์ไม้ยมกก็เลยขอตามพี่เจมส์มาด้วย
เรื่องมันก็กลายเป็นแบบนี้แหละ!
ตอนแรกฉันเองก็ไม่ได้คิดอะไรมาก เพราะเมื่อไปถึงที่บ้านก็จะนอนค้างคืนหนึ่งคืนแล้วออกเดินทางในตอนเช้า คนบ้านนอกอย่างฉันไม่ได้หวงบ้านขนาดนั้น ใครไปใครมาก็ยินดีต้อนรับ พอรู้ว่าเพื่อนจะไปเที่ยวบ้านก็ดีใจ เพราะฉันไม่เคยพาเพื่อนมาเที่ยวที่บ้านเลย โดยเฉพาะยายที่ตื่นเต้นมากกว่าแม่เสียอีก
“ปอ..เอ๊ย! หนุ่มหล่อๆ ที่ดีดกีตาร์ให้วันนั้น ไอ้ที่ live สดน่ะ มาด้วยใช่ไหม?” ยายถามด้วยน้ำเสียงตื่นเต้น
“ไปสิยาย เค้ามีเพื่อนไปด้วยอีกคน ยายถามทำไมหรือ?” ฉันเริ่มเอะใจในคำถามของยาย
“ไม่มีอะไร ยายแค่บอกกับเพื่อนๆแถวบ้านไป ว่าหนุ่มหล่อคนนี้เป็นว่าที่หลานเขย เพื่อนๆเลยอยากเห็นตัวจริงน่ะ” ยายพูดด้วยน้ำเสียงตื่นเต้น
เดี๋ยวนะยาย! นี่ยายถามหนูหรือยังนี่ว่าเป็นแฟนกับเขาหรือยัง
เรื่องเหมือนจะปกติ จนถึงวันออกเดินทางขณะที่เดินมาที่สถานี บขส. พี่สาวซาตี้ก็โพล่งขึ้นมาแบบไม่มีปี่มีขลุ่ย
“หากคนอื่นที่ไม่ใช่คนใกล้ชิดสมัยก่อน เห็นรูปเจ้าเมื่อตอนเด็ก เค้าก็จะเห็นเป็นรูปเด็กผู้หญิง อ้วน ดำสิว ใส่แว่นคนเดิม” พี่สาวซาตี้พูดหน้าตายเหมือนไม่มีอะไร
“ก็ดีนะ! สมัยก่อนฉันขี้เหร่ แถมยัง....เอ๊ะ! พี่สาวซาตี้ว่าอย่างไรนะ!” ฉันเบรคตัวเอี๊ยด! หัวแทบทิ่ม
“ก็ตามนั้นแหละ! เวทย์มนต์ของข้าทำได้แค่คนรอบกายเจ้าที่เห็นมาตั้งแต่เด็กเท่านั้น ที่ไม่รู้สึกถึงความเปลี่ยนแปลงของร่างใหม่อย่างกระทันหัน คนที่เห็นเจ้าในร่างใหม่หลังจากนั้นไม่นับ ” พี่สาวซาตี้พูดไปกินหมูปิ้งไปอย่างสบายอารมณ์
“ตายแล้ว! งั้นที่วางแผนพาไปนอนที่บ้าน ความลับก็จะแตกน่ะสิ!” ฉันเริ่มกระวนกระวาย ยัยพี่สาวซาตี้ทำไมถึงเพิ่งมาบอกนี่
“อ้าวปอ! มาถึงเร็วดีนี่!” สามสาวตระกูลม.ม้า มาถึงพร้อมกัน ก่อนเดินสวัสดีพี่สาวซาตี้
“แก! เป็นอะไรหรือเปล่า ดูท่าทางลุกลี้ลุกลนเหมือนไปแอบปล้นธนาคารมา” ยัยมินท์ทักขึ้นเมื่อเห็นฉันผิดปกติ
“ไม่มีอะไร! เดี๋ยวฉันมานะ” ฉันกะจะปลีกตัวออกมา เพื่อวางแผนกับพี่สาวซาตี้ ถึงเป็นเพื่อนซี้กันแต่ก็ไม่อยากให้เห็นรูปตอนเด็กเหมือนกันนะ
ขณะที่กำลังจะก้าวขาออก เสียงหล่อๆก็ดังขึ้น
“สวัสดีครับพี่เจนิเฟอร์ แหม!น้องปอร์เช่กับเพื่อนๆถึงเร็วมาก” พี่เจมส์กับพี่แม็กซ์ที่เดินทางมาด้วยกัน พร้อมแบกสัมพาระมากมายเดินเข้ามาทักทาย
ไม่นะ! ความลับของฉัน พี่เจมส์กับเพื่อนยิ่งรู้ไม่ได้
“พี่เจมส์มาถึงเร็วจัง!” เสียงยัยหลินดังขึ้น ตามมาด้วยเสียงของเดอะแก๊งค์ไม้ยมก
“แหม! พวกเธอก็มากันแต่วันเลยนะ ตื่นเต้นล่ะสิวันๆ คงไม่เคยไปต่างจังหวัด! แต่เอ๊ะ!.. ลืมไปว่าที่ๆจะไปเป็นบ้านนอกนี่นะ อย่างนั้นคงจะไปกันบ่อยเพราะเป็นคนบ้านนอกกันทุกคน” ยัยชิงชิงเป็นต้นเสียง ตามด้วยเสียงหัวเราะของคนที่เหลือที่คิกคักกันใหญ่
ฮึ่มมม! เดี๋ยวพอไปถึงบ้านนอก จะเอาหมามุ่ยมาโยนใส่พวกแกซะเลย รู้ฤทธิ์! แม่น้อยเกินไปซะแล้ว
แต่ยัยพวกนี้ก็ยังมีมารยาท ยกมือไหว้สวัสดีพี่สาวซาตี้กันทุกคน แต่เอ๊ะ! ทำไมถึงมีกันหกคน มาจากไหนอีกหนึ่ง?
“ขอแนะนำนี่ผู้จัดการส่วนตัวของฉัน ชื่อคุณ คิมคิม” ยัยหลินแนะนำผู้จัดการส่วนตัวที่มาด้วย ลืมไปว่ายัยนี่ก็เข้าร่วมประกวดด้วยเหมือนกัน
ฉันหันไปมองก็เห็นผู้หญิงวัยกลางคนหุ่นเจ้าเนื้อ ผิวขาวคนหนึ่ง เดินเข้ามาแล้วหยุดตรงหน้าของพี่สาวซาตี้ด้วยความตะลึง
เพราะทั้งสองคนคล้ายกันยังกับพี่น้อง ไม่ว่าจะเป็น ส่วนสูง รูปร่างหรือลักษณะ แต่ต่างกันตรงที่หน้าตาที่คุณคิมคิม จะตาโตกว่าเล็กน้อย
“เจนิเฟอร์ค่ะ!” พี่สาวซาตี้ทักทายพร้อมยื่นมือขวาออกไป
“คิมคิมค่ะ!” คุณคิมคิมทักทายกลับพร้อมยื่นมือขวาไปจับมือ
แต่ชั่วขณะที่ทั้งสองจับมือกันนั้น ฉันรู้สึกว่าเหมือนมีกระแสไฟฟ้าส่องออกมาจากดวงตาของทั้งคู่และปะทะกันในอากาศ
เอิ่มมม!....แผ่รังสีอำมหิตกันแบบนี้ สงสัยจะไม่ถูกชะตากันตั้งแต่แรกแน่ๆ
“อากาศก็ดี น่าจะลืมตาชมทิวทัศน์บ้างนะคะ คุณเจนิเฟอร์” คุณคิมคิมใส่ก่อนหนึ่งดอก
“ก็อยากจะลิมตาขึ้นมาเหมือนกันค่ะคุณคิมคิม แต่เหมือนวิวแถวนี้จะอุบาทว์ เลยมองแบบหรี่ๆเหมือนเดิมดีกว่าค่ะ” พี่สาวซาตี้สวนคืน
เปรี๊ยะ!ๆๆๆๆๆๆๆๆๆ............. รังสีอำมหิตเพิ่มดีกรีขึ้นอย่างรู้สึกได้ นี่พวกเธอ! จะมาทำลายสถานี บขส.กันหรือไง?
“เอ่อ! ผมว่าเราขึ้นรถกันดีกว่านะครับ จะได้เอาของไปเก็บที่รถด้วย” พี่เจมส์ห้ามทัพทันที หลังรู้สึกว่าถ้าไม่รีบ ทั้งสองคนอาจแปลงร่างบุกถล่มเมืองได้
หลังจากนั้นทุกคนก็แยกย้ายขึ้นรถ ฉันนั่งกับพี่สาวซาตี้ มินท์และหม่อนนั่งด้วยกัน ส่วนยัยไหมนั่งเบาะเดี่ยวคนเดียว
ยัยหลินนั่งกับคุณคิมคิม แก็งค์ไม้ยมกนั่งเป็นคู่ และสองหนุ่มก็นั่งอยู่เบาะสุดท้าย
และแล้วรถก็เคลื่อนตัวออกจากสถานี
ฉันนั่งเหงื่อตก กระวนกระวาย คิดหาวิธีเก็บรูปเก่าตอนเด็กที่อยู่ในบ้านให้เรียบร้อย ก่อนกลุ่มนักเดินทางเหล่านี้จะไปเห็น อยู่นานสองนาน จนในที่สุดก็คิดออก
นางฟ้าของฉัน นี่แหละทีมซัพพอร์ทของฉันที่ช่วยชีวิตฉันได้ในตอนนี้.... โทรเลยละกัน!
“ฮัลโล!ยาย ได้ยินไหม?” ฉันถามยายด้วยเสียงพูดที่เบา คล้ายกลัวคนอื่นได้ยิน
“อ้าว! ปอเหรอ! ถ้ามาถึงก่อนเข้าไปรอที่บ้านนะ ยายกับแม่มางานแต่งญาติในเมือง เย็นนั่นแหละถึงจะกลับ” ยายตอบด้วยน้ำเสียงที่เหมือนกับอยู่ในกองทัพแตรวง สงสัยจะเต้นอยู่หน้าขบวนขันหมากแน่ๆ
ฉันวางสายทันที...เมื่อรู้ว่าทีมซัพพอร์ทของฉันกลายร่างเป็นแดนเซอร์อยู่หน้าขบวนขันหมาก
ตายๆๆ....คราวนี้ต้องตายแน่ๆ....ความลับของฉันจะต้องถูกเปิดเผยหรือนี่!
นึกถึงหน้ายัยหลินกับแก๊งค์ไม่ยมกตอนเห็นรูปฉันแล้ว ฉันต้องกลับมาถูกบูลลี่อีกแน่ๆ
แล้วยังมีพี่เจมส์ พี่แม็กซ์และสามสาว ตระกูลม.ม้าอีก......
ลาก่อน...สรวงสวรรค์และความรักอันแสนสั้นของฉัน ลืมสาวน้อยน่ารักคนนี้ไปซะเถอะ กระซิกๆ
เอ๊ะ! แต่เดี๋ยวก่อน ฉันมีผู้สร้างปาฏิหารย์อยู่ใกล้ๆนี่
“อย่าหวัง! ข้าช่วยเจ้าไม่ได้” พี่สาวซาตี้พูดออกมา ก่อนที่ฉันจะพูดขอร้อง ปฏิเสธกันตั้งแต่แค่คิดในใจอยู่เนี่ยนะ ใจร้ายจริงๆ
“ช่วยหนูหน่อยน้า...พี่สาวซาตี้ อยากได้อะไรหนูให้หมดเลย” ฉันเริ่มอ้อน ก็มันไม่มีทางอื่นแล้วนี่
“ตอนนี้ข้าอยู่ในฐานะผู้จัดการส่วนตัวของเจ้า ไม่ใช่ฐานะซาตี้ จึงไม่สามารถใช้เวทย์มนต์ได้” พี่สาวซาตี้ตอบแบบนิ่งๆ
“โห! พี่สาวช่วยหนูหน่อยนะ” ฉันเริ่มอ้อนอีกครั้ง คนอะไรใจร้ายชะมัด ไม่ยอมใช้เวทย์มนต์ช่วยเพราะเป็นผู้จัดการส่วนตัวอยู่..........เดี๋ยวนะ! ผู้จัดการส่วนตัวอย่างนั้นเหรอ
“พี่สาวซาตี้ รู้ไหมว่าหน้าที่สำคัญของผู้จัดการส่วนตัว ข้อที่ห้า ระบุว่าอย่างไร?” ฉันถามขั้นด้วยรอยยิ้มเจ้าเล่ห์
“รู้สิ! ข้อห้าระบุว่า ต้องดูแลภาพลักษณ์ของศิลปินไม่ให้เสื่อมเสีย” พี่สาวซาตี้ตอบ
“ถูกต้อง นั่นหมายความว่า ถ้าภาพลักษณ์ของฉันเสียหายเพราะรูปเมื่อตอนเด็ก พี่สาวซาตี้ก็ทำผิดสัญญาของผู้จัดการ” ฉันรู้สึกยิ้มอย่างมีชัย แสงสว่างเริ่มเปิดขึ้นแล้ว
“ยัยหนู เจ้านี่มันร้ายจริงๆ เอาล่ะข้าช่วยเจ้าก็ได้ แต่มีข้อแม้ว่าจะไม่มีการใช้เวทย์มนต์ช่วย” พี่สาวซาตี้ตอบรับ
“ได้! ขอเพียงมีพี่สาวซาตี้ช่วย ฉันน่าจะจัดการปัญหาได้” ฉันเริ่มมั่นใจขึ้น และหารือเรื่องแผนการณ์กันอย่างเงียบๆ
“ไอ๊หยา! เล่นกันแบบนี้เลยหรือ?” พี่สาวซาตี้อุทานขึ้นเมื่อได้ยินแผน
“มีเพียงวิธีนี้เท่านั้นที่จะแก้ไขสถานการณ์นี้ได้” ฉันตอบอย่างหนักแน่น
ก็แหม! ก็ถ้าแก้แบบธรรมดาๆ มันคงหนีความสงสัยของพวกยัยหลินกับเดอะแก๊งค์ไม่ได้หรอก จะทำทั้งที ก็ต้องจัดให้ปังปุริเย่กันไปเลย
รถไปถึงเมื่อไหร่ รับรองว่าตะลึงกันแน่นอน....
..............................................