สวัสดี...กลิ่นฤดูแห่งความรัก
ตอนที่ 23 ความว่างเปล่าที่เติมเต็ม
แมวมองที่ทาบทามยายให้ประกวดนางงามนั้น กำนันเป็นคนพามาเพราะรู้ว่าลูกชายของตัวเองกำลังจีบอยู่ ซึ่งหากยายได้ตำแหน่ง ทางกำนันก็ตั้งใจจะสู่ขอยายให้ลูกชายทันที
 
ตอนนั้นตาทำอะไรไม่ได้ นอกจากมองทุกฝ่ายจัดการเรื่องการประกวดของยาย
 
และแล้ววันประกวดก็มาถึง ยายดูสวยมากกว่าเดิมหลายเท่า ของสวยงามบางอย่างหากอยู่ถูกที่ถูกเวลา แค่จัดแต่งเพียงเล็กน้อย ก็สามารถเปล่งประกายได้  ยายของฉันก็เช่นกัน พอแต่งหน้าทำผมและอยู่ในชุดที่สวย ก็โดดเด่นกว่าใคร ขนาดตัวเต็งการประกวดที่เป็นนางงามเดินสาย พอได้เห็นยายก็ยังถอดใจ
 
ด้วยความที่สวยเด่นกว่าผู้ประกวดคนอื่น ยายจึงทะลุเข้าถึงรอบชิงชนะเลิศที่มีสาวงามเหลือเพียงแค่ห้าคน และแน่นอนว่ารอบนี้ตัดสินกันด้วยการตอบคำถาม
 
ไม่รู้ว่าคำถามนี้คัดมาเพื่อให้ผู้เข้าประกวดที่เป็นตัวเต็งหรือเปล่า เพราะคำถามนั้นถามว่า
 
“คุณชอบใช้น้ำหอมยี่ห้อใด และเพราะเหตุใด...จึงเลือกใช้ยี่ห้อนี้?”  ซึ่งสปอนเซอร์ของตัวเต็งก็คือน้ำหอมยี่ห้อหนึ่ง และน้ำหอมยี่ห้อนี้ยังเป็นสปอนเซอร์ใหญ่ในการจัดงานประกวดอีกด้วย
 
คนอื่นก็ตอบคำถามแบบธรรมดา แต่พอถึงผู้สมัครตัวเต็งก็ตอบได้ดีราวกับเตรียมคำตอบมาจากที่บ้าน
 
“ดิฉันเลือกใช้น้ำหอมตามบุคลิกของตัวเองค่ะ เนื่องจากดิฉันมีนิสัยเรียบร้อยเป็นกุลสตรี จึงเลือกใช้น้ำหอมที่มีกลิ่มหอมหวาน อย่างน้ำหอม xxxx ที่คัดสรรหัวน้ำหอมชั้นดีจากเมืองนอก ทำให้กลิ่นหอมของดิฉันไม่เหมือนใครและเป็นเอกลักษณ์ค่ะ”  เมื่อตัวเต็งพูดจบก็ได้รับเสียงปรบมือเกรียวกราว
 
และแล้วก็มาถึงยาย ซึ่งเป็นคนสุดท้ายที่จะตอบคำถาม ซึ่งยายก็ตอบคำถามนี้ด้วยความเป็นจริง
 
“ดิฉันอาจเป็นผู้สมัครคนเดียวในที่นี้ ที่ไม่เคยได้ใช้น้ำหอม เด็กสาวบ้านนอกที่อย่างเราแค่แป้งหอมทั่วไปก็ถือว่าดีมากแล้ว อันที่จริงก่อนหน้านี้ดิฉันเองก็เคยได้รับน้ำหอมราคาแพงมาขวดหนึ่งแต่ไม่เคยได้ใช้ เพราะรู้สึกว่ากลิ่นหอมบางอย่างที่คนอื่นชื่นชอบ บางทีอาจจะไม่เหมาะกับเรา”
 
“ดิฉันชอบกลิ่นหอมของดอกอาฮวน ดอกไม้ป่าสีขาวดอกเล็กๆ เพราะมีคนบอกดิฉันว่าเมื่อได้กลิ่นของดอกอาฮวนเขาจะคิดถึงคนรักที่รออยู่ ฉันจึงทัดหูด้วยดอกอาฮวนเสมอ เพราะฉันเองก็อยากคิดถึงคนที่ดิฉันรักและรออยู่เช่นกัน” เมื่อยายพูดจบเสียงปรบมือก็ดังไปทั่วงานมากกว่าตอนที่ตัวเต็งตอบคำถามเสียอีก
 
ผู้คนชอบในความใสซื่อและเรียบง่ายของยาย และคำตอบนี้ก็ดูจริงใจจนทุกคนสัมผัสได้ แม้แต่คณะกรรมการ
 
และท้ายที่สุดผู้ที่ได้รับรางวัลนางงามประจำตำบลก็คือ.........
 
ผู้เข้าประกวดตัวเต็งที่มีสปอนเซอร์เป็นน้ำหอมคนนั้น
 
แม้จะมีเสียงท้วงติงว่ายายน่าจะเป็นผู้ชนะ ทั้งสวยกว่าและตอบคำถามดีกว่า แต่ก็ไม่มีใครกลับคำตัดสินได้ ยายจึงได้เพียงตำแหน่งรองนางงามตำบลเท่านั้น
 
ถึงแม้จะเป็นแค่ตำแหน่งรอง แต่ก็เพียงพอที่จะทำให้กำนันส่งคนมาสู่ขอยายกับพ่อและแม่ ซึ่งคำตอบก็คือ...ตกลง
 
ยายถูกคลุมถุงชนแต่งงานกับลูกของกำนัน  โดยที่ทั้งพ่อและแม่ไม่ได้สนใจความรู้สึกของยายเลย
 
ทั้งสองพูดอย่างเดียวว่า ความรักไม่ช่วยให้ท้องอิ่ม อยู่ๆไปเดี๋ยวก็รักกันไปเอง  กำหนดงานแต่งงานจึงถูกประกาศออกมาในวันเดียวกันกับที่ไปสู่ขอ ท่ามกลางความชื่นมื่นของทุกคนในครอบครัว
 
แต่ไม่ใช่ยายและชายอีกคนหนึ่งที่ถูกลืมเลือนไป
 
นั่นก็คือ.....ตานั่นเอง
 
ตอนที่รู้ข่าวเรื่องยายจะแต่งงาน ตาก็กินไม่ได้นอนไม่หลับจนล้มป่วยและยายเองก็ไม่ได้ดีไปกว่ากัน ทั้งคู่ต่างตรอมใจเพราะความรักและคิดถึงกัน จนกระทั่ง...ก่อนวันแต่งงานไม่กี่วัน
 
ทั้งยายและตาก็หายตัวไป....จากหมู่บ้าน
 
ทั้งคู่ตัดสินใจหนีตามกันไปตายเอาดาบหน้า โดยไม่รู้อนาคต
 
สมัยก่อนการหนีตามกัน ดูเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นบ่อยแต่ก็ไม่ได้หมายความว่าทางครอบครัวจะรับได้ โดยเฉพาะครอบครัวของยายที่กำลังจะได้ลูกเขยเป็นลูกชายกำนัน
 
พ่อของยายเกณฑ์คนออกตามหา โดยมีกำนันให้ความช่วยเหลือเพราะรู้สึกว่าถูกหยามเกียรติและชื่อเสียง
 
ในขณะที่ตากับยายหนีตามออกมาโดยไม่มีจุดหมายปลายทาง รู้อย่างเดียวว่าต้องเดินทางไปให้ไกลที่สุด
ทั้งสองที่มีแค่เงินติดตัวเพียงเล็กน้อย ค่ำไหนนอนนั่น อดมื้อกินมื้อ มองไปทางไหนก็ยังไม่เห็นอนาคต เรียกได้ว่ามีแต่ความว่างเปล่า
 
แต่ในความว่างเปล่าของคนสองคน ที่ต่างเติมเต็มความรู้สึกให้กันและกัน ความว่างเปล่านั้นกลับเป็นความว่างเปล่าที่มีค่าและสมบูรณ์
 
วันหนึ่งทั้งสองคนก็เดินทางมาถึงที่ดินรกร้างแห่งหนึ่ง ที่ทางราชการอนุญาติให้ชาวบ้านเข้ามาจับจองทำกินได้ เนื่องจากพื้นที่ราบที่เพาะปลูกง่ายถูกคนจับจองไปหมดแล้ว ตากับยายจึงต้องไปหาแปลงที่ลึกเข้าไปในป่า จนกระทั่งมาถึงที่แปลงหนึ่งที่มีเนินเล็กๆ บนเนินนั้นมีต้นอาฮวนที่ออกดอกเล็กสีขาวส่งกลิ่นหอมอันคุ้นเคย ลอยรัญจวนออกมา
 
ตามองไปที่ยายแล้วจับมือทั้งสองข้าง พร้อมพูดออกมาว่า
 
“ที่นี่แหละคือบ้านของเรา เราจะทิ้งอดีตและเริ่มต้นกันใหม่ ฉันขอสาบานต่อต้นอาฮวนต้นนี้ว่า จากนี้ไปฉันจะดูแลเธอ จะไม่มีวันทอดทิ้งเธอไปไหน ทุกครั้งที่ฉันและเธอได้กลิ่นดอกอาฮวนขอให้คิดถึงวันนี้ที่เรามีเพียงกันและกัน และคิดถึงกันได้ทุกลมหายใจ ”
 
ตั้งแต่นั้น ชีวิตใหม่ของตาแลยายก็เริ่มต้นขึ้นตรงผืนดินที่มีต้นอาฮวนต้นนั้นเป็นพยาน ตาและยายเริ่มปรับปรุงพื้นที่และเพาะปลูก ด้วยความขยันไม่นานก็เริ่มสร้างเนื้อสร้างตัวได้
 
หลายปีผ่านไปตาและยายก็เริ่มมีฐานะ และตัดสินใจเดินทางกลับไปขอขมาครอบครัวของยาย ตอนนี้เมื่อทุกคนเห็นว่าตาและยายมีฐานะดี ก็ไม่ได้โกรธกลับดีใจด้วยและรับการขอขมาจากตาด้วยความเต็มใจ
 
เพราะหลังจากที่ยายหนีตามตาไป ลูกของกำนันก็ได้แต่งงานกับสาวสวยอีกคนในหมู่บ้าน แต่ก็ไม่เลิกนิสัยเจ้าชู้แถมยังติดการพนัน จนมรดกที่กำนันทิ้งไว้ให้ก่อนตายไม่มีเหลือ ครอบครัวแตกแยกลูกเมียลำบากไม่มีเงิน ต้องไปรับจ้างงานเล็กๆน้อยอยู่ที่ตลาด
 
หมดสภาพลูกกำนันผู้มีอิทธิพลในวันนั้นจนหมดสิ้น
 
 “วันหนึ่งเราจะกลับไปพิสูจน์ให้คนเหล่านั้นเห็นว่า ดอกอาฮวนเล็กๆอย่างเรา มีคุณค่ามากกว่าจะโดนเหยียบย่ำความรู้สึก ” เป็นคำที่ตาเคยพูดไว้กับยายตอนลำบาก
 
และตอนนี้ตาก็ทำได้สำเร็จ
 
หลายปีผ่านไปจนตาและยายมีแม่ และแม่ก็แต่งงานกับพ่อจนมีฉัน ตอนฉันอายุได้เพียงห้าขวบตาก็จากไป
 
วันที่ตาจากไป...ต้นอาฮวนต้นใหญ่ที่อยู่มาเนิ่นนานก็เริ่มแห้งตาย ราวกับมันได้สิ้นสุดคำมั่นสัญญาที่เคยทำไว้กับตาแล้ว
 
คำมั่นสัญญาที่ตาเคยบอกกับยายว่า.....จะไม่มีวันทอดทิ้งยาย
 
ยายร้องไห้อยู่กับต้นอาฮวนหลังงานศพตาเป็นเดือน และพยายามรักษาต้นอาฮวนต้นนี้ไม่ให้ตายมาโดยตลอด แต่.....ก็ไร้ผล
 
ต้นอาฮวนต้นนี้ มันคงเหนื่อยเกินไปและต้องการพักผ่อนเช่นเดียวกับตา ยายเคยบอกฉันเมื่อตอนเด็กๆ
 
และแล้วตอนอาฮวนก็ค่อยๆตายและหายไป เหมือนกลิ่นของดอกอาฮวน
 
ไม่ว่ายายจะพยายามปลูกต้นอาฮวนอีกกี่ครั้ง ก็ไม่เคยมีต้นอาฮวนต้นไหนเติบโตได้อีกเลยในสวนหน้าบ้านแห่งนี้
 
ราวกับมันกำลังจะบอกกับยายว่า ต้นอาฮวนของยายที่จะทำให้นึกถึงตาได้มีเพียงต้นเดียวในโลกเท่านั้น  เหมือนคำสัญญาที่มีเพียงผู้ชายคนเดียวในชีวิต ที่สามารถรักษาและทำได้เพื่อยาย
 
ยายเคยพูดบ่อยๆว่า ชีวิตที่เหลืออยู่นี้ ก่อนตายอยากจะได้ดมกลิ่นของดอกอาฮวนอีกสักครั้ง แต่ก็ไม่รู้ว่าตอนที่ได้กลิ่น ภาพของตาจะยังชัดเจนอยู่หรือไม่
 
 นั่นคืออีกหนึ่งเหตุผลที่ฉันอยากตามหาต้นอาฮวน
 
ก็ได้แต่หวังว่า...ดอกเล็กๆสีขาวพร้อมกลิ่นหอมรัญจวน
 
ที่เคยเติมเต็มความว่างเปล่าของตาและยาย
 
จะช่วยเติมเต็ม....ความคิดถึงที่อ้างว้างของยายอีกครั้ง
.................................................
 
แด่ความว่างเปล่าสีขาว...ที่เต็มไปด้วยความรู้สึก
 
เหมือนที่ฉันกำลังนั่งคุยกับผู้ชายคนหนึ่งท่ามกลางดวงดาว
 
คืนนี้....ฉันคงพูดมากไปสินะ
 
 
ตอนต่อไป
ตอนที่ 24 จุดหมายของภารกิจ