“ขอบคุณทุกคนมากนะคะ แล้วอย่าลืมมาร่วมกิจกรรมดีๆกันด้วยน้าาา..........” ฉันกล่าวปิดจบการ Live สดในช่อง Startube ของตัวเอง และเอนตัวลงบนเก้าอี้
“เห้ออ!...จบ Live สักที!” ฉันนั่งเหนื่อยหมดแรงหลังทำการ Live สดไปสองชั่วโมง
“ดีมากยัยหนู Live เมื่อกี้มีคนดูเกือบเจ็ดหมื่นคนและผู้ติดตามเพิ่มเป็นสามแสนคนแล้ว” พี่สาวซาตี้ที่ตอนนี้เป็นผู้จัดการส่วนตัวด้วย มองยอดวิวและผู้ติดตาม พูดด้วยความภูมิใจ
“ตอนนี้ผู้ติดตามของเจ้าเยอะขึ้นมาก เมื่อรวมกับยอดโหวตจากเพลงแล้ว คะแนนรวมของเจ้าน่าจะได้เข้ารอบที่สองต่อไป” พี่สาวซาตี้ประเมินคะแนนของฉัน พลางขยับแว่นตรงจมูก วางมาดเหมือนเหมือนผู้จัดการศิลปินมืออาชีพมาก
นี่ถือเป็น Live แรกของฉัน หลังกลับจากการตามหาต้นอาฮวน ที่แม้จะไม่เห็นดอกอาฮวนแต่ก็ได้เมล็ดมาปลูกที่บ้าน เมื่อเดินทางกลับมาถึงกรุงเทพ พี่สาวซาตี้ก็วางแผนให้ฉัน Live สดเพื่อดึงแฟนคลับมาร่วมกิจกรรมพบปะเพื่อเพิ่มความนิยมทันที
ส่วนสาเหตุที่พี่สาวซาตี้ไฟแรงขนาดนี้ นั่นก็เพราะผู้จัดการส่วนตัวของยัยหลิน "คุณคิมคิม" นั่นเอง
“ข้าจะทำให้ยัยซาลาเปานั่นรู้ผลลัพท์ของคำว่าพ่ายแพ้” พี่สาวซาตี้พูดด้วยสีหน้าจริงจังพร้อมกำหมัดขึ้น
“นี่พี่สาว! ทำไมถึงแค้นคุณคิมคิมขนาดนี้?” ฉันถามพี่สาวซาตี้เพราะอยากรู้ พอพี่สาวซาตี้เล่าให้ฟังฉันถึงได้รู้ความคับแค้นใจ
ก็ตลอดเวลาที่เราเดินทางไปตามหาต้นอาฮวนจนเดินทางกลับ คุณคิมคิมก็ขิงใส่พี่สาวซาตี้ตลอด แต่พี่สาวซาตี้ก็ตอบกลับไปได้ทุกครั้ง ยกเว้นเรื่องเดียวที่พี่สาวซาตี้สู้ไม่ได้ นั่นก็คือ.......
“ที่แค้นคุณคิมคิม! เพราะพี่สาวไม่มีรูปแฟนไปอวด! ฮ่าๆๆ! ” ฉันขำท้องแข็งด้วยความตลก ที่เพิ่งรู้ว่า มีบางเรื่องที่พี่สาวซาตี้ก็ทำไม่ได้กับคนอื่นเหมือนกัน
หลังจากเถียงไม่ชนะ คุณคิมคิมเลยงัดรูปแฟนหนุ่มมาอวด แถมแฟนคุณคิมคิมยังหน้าตาหล่อราวกับพระเอก ยิ่งพอพี่สาวซาตี้ไม่มีอวดกลับ ก็เลยโดนคุณคิมคิมพูดข่มตลอดขากลับ
“แล้วทำไมพี่สาวซาตี้ ไม่แอบอ้างรูปใครมาก่อนล่ะ แค่นี้ใช้เวทมนต์ก็ได้มั้ง?” ฉันพูดขณะที่ยังขำอยู่
“ยัยหนู! เผ่าพันธ์ของเราไม่พูดโกหก โดยเฉพาะเรื่องของคู่ครอง เอาล่ะ! ไม่ต้องสนใจเรื่องของข้า เจ้าเพียงแค่ต้องเข้ารอบและชนะการประกวดนี้พอ แค่นี้ก็ทำให้ข้าชนะยัยซาลาเปานั่นแล้ว!” พี่สาวซาตี้พูดด้วยน้ำเสียงจริงจัง
พวกเราสองคนวางแผนจัดงานพบปะแฟนคลับในช่วงวันอาทิตย์สิ้นเดือนนี้ ที่ร้านอาหารแห่งหนึ่งโดยใช้งบที่ทางค่ายให้มา ซึ่งรูปแบบงานจะเป็นมินิคอนเสิร์ต และมีการร่วมประมูลของเพื่อหาเงินไปบริจาคให้กับการกุศล
ในช่วงเตรียมงานฉันก็ได้เพื่อนสาวทั้งสามคนมาช่วย รวมถึงทีมงานจากทางค่ายที่พี่สาวซาตี้ประสานให้ ซึ่งทุกอย่างก็เป็นไปได้ด้วยดี
ในขณะที่ยัยหลินเองก็วางแผนจะจัดกิจกรรมเช่นเดียวกัน แถมยังกะจะทำให้ฉันเสียหน้าในวันนั้นด้วย
“ต้องจัดงานวันเดียวกัน เวลาเดียวกันและต้องเป็นร้านฝั่งตรงข้ามที่ยัยปอร์เช่จัดเท่านั้น” ยัยหลินออกคำสั่งกับทีมงาน โดยมีคุณคิมคิมช่วยประสานงานอยู่
“แต่ร้านฝั่งตรงข้าม จะใช้ค่าใช้จ่ายสูงกว่าที่ค่ายเพลงให้มานะคะ!” คุณคิมคิมอธิบาย
“ไม่เป็นไร ต้องจ่ายเพิ่มเท่าไหร่ก็บอก ขอเพียงฉันชนะยัยปอร์เช่วันนั้นได้ เท่าไหร่เท่ากัน!” ยัยหลินใช้มือทุบโต๊ะกลางที่ประชุม
“ส่วนรูปแบบงานและแผนการ ให้เป็นไปตามที่ฉันบอก ครั้งนี้รับรองว่าต้องไม่มีใครไปร่วมงานของยัยปอร์เช่แน่นอน ฮ่าๆๆ!”
...........................
และแล้วก็ถึงวันงานพบปะแฟนคลับของฉัน โดยงานจะเริ่มในช่วงเวลาบ่ายสองโมงและใช้เวลาทั้งหมดหนึ่งชั่วโมง เนื่องจากเรามีงบประมาณเช่าสถานที่แค่นั้น ฉันเลือกร้านนี้เพราะเป็นร้านเล็กๆที่น่ารัก สามารถแบ่งโซนได้ โดยโซนที่ฉันเลือกสามารถจุคนได้ประมาณห้าสิบคน
แม้จะดูว่าทางค่ายลงทุนออกค่าใช้จ่ายการจัดงานให้ แต่ทางค่ายเองไม่ได้เน้นเรื่องของจำนวนผู้ร่วมงานมากนัก เพราะรายได้หลักอยู่ที่ยอดชม Live สด ของค่ายมากกว่า เพราะจะมีสินค้ามากมายมาสนับสนุนซึ่งถือเป็นรายได้ที่มากกว่าค่าจัดงานมากมาย
ฉันเตรียมเสื้อที่วาดลวดลายเอง มาประมูลเพื่อการกุศลจำนวนสิบตัว โดยทุกตัวจะเซ็นลายเซ็นและเขียนชื่อของผู้ที่ประมูลได้เป็นพิเศษ
และตอนนี้ทุกอย่างก็พร้อมแล้ว
“เฮ้ย! ปอ แย่แล้ว!” ยัยมินท์วิ่งกระหืดกระหอบมาในร้าน ด้วยสีหน้าที่ไม่ค่อยดี
“มินท์! เกิดอะไรขึ้น ทำไมถึงวิ่งหน้าตาตื่นแบบนี้?” ฉันถามยัยมินท์ที่กำลังยืนหอบอยู่เบื้องหน้า
“ก็พวกยัยหลินจัดงานพบปะแฟนคลับวันนี้เหมือนกัน แต่อยู่ร้านฝั่งตรงข้าม แถมมีการเชิญพี่ “ปาหนี้.” มาเป็นแขกรับเชิญและเล่นคอนเสิร์ตเวลาเดียวกับเราด้วย ตอนนี้คนแห่ไปดูคนเสิร์ตที่ร้านโน้นกันหมดเลย รวมถึงแฟนคลับของเราด้วย ” ยัยมินท์รายงานด้วยความตกใจ
พี่ “ปาหนี้” เป็นศิลปินสาวเซอร์ ขวัญใจวันรุ่น เป็นสาวลูกครึ่งที่สวย ผมยาว เสียงดี มีเอกลักษณ์ทุกครั้งที่เล่นคอนเสิร์ตจะไม่ใส่รองเท้า เพราะเคยไปเล่นในงานฉลองโบสถ์แห่งหนึ่งแล้วรองเท้าหาย จึงต้องขึ้นเล่นคอนเสิร์ตแบบนั้นจนกลายเป็นเอกลักษณ์ ตั้งแต่นั้นพี่“ปาหนี้” ก็เลยเลิกใส่รองเท้าตอนเล่นคอนเสิร์ตย่างถาวร และลามไปถึงแฟนคลับ ที่ทุกครั้งที่มาดูคอนเสิร์ตของ พี่“ปาหนี้” ก็จะไม่มีใครใส่รองเท้าเลยสักคน
เพลงที่โด่งดังของพี่“ปาหนี้” มีมากมาย โดยเฉพาะเพลงสร้างชื่อ “จ่าดำ จ่าดา” ที่พูดถีงจ่าสองคนกำลังไล่จับสิบล้อและมอเตอร์ไซค์ ที่โดนใจคนทั่วประเทศ หรือจะเป็นเพลง “แบงค์เทาๆสีจาง” เพลงช้าบาดลึก ที่พูดถึงแบงค์สีเทาที่จากไปเพราะกระเป๋ากางเกงขาด ก็โด่งดังไม่แพ้กัน
นอกจาความโด่งดังทั้งบทเพลงและตัวศิลปินแล้ว พี่“ปาหนี้” ยังมีข่าวลึกลับเรื่องหนึ่งก็คือ ใบหูที่หลบซ่อนของแก ว่ากันว่าแกจะซ่อนใบหูเอาไว้ตลอดเวลาและหากใครได้เห็นใบหูของแกจะมีโชคลาภมาก เพราะเคยมีแฟนคลับของพี่“ปาหนี้” ได้เห็นใบหูที่ซ่อนอยู่ของแก จนถูกหวยรางวัลที่หนึ่ง
ตั้งแต่นั้นมา แม้ไม่ใช่แฟนคลับที่ชื่นชอบเพลงของแก หากใกล้วันที่หวยออก ผู้คนต่างก็อยากไปคอนเสิร์ตของ พี่“ปาหนี้”เพื่อหวังโชคลาภจากการได้เห็นใบหูลึกลับของแกเป็นจำนวนมาก
“อะไรนะ! พี่”ปาหนี้” มางั้นหรือ!” ฉันได้ยินก็ตกใจเช่นกัน
“งั้นฉันขอไปดูคอนเสิร์ทของพี่เค้าก่อนนะ!” ฉันรีบลุกขึ้นและพุ่งตัวรีบออกไปร้านฝั่งตรงข้าม ก็ แหม! ฉันก็เป็นบิ๊กแฟนของพี่”ปาหนี้” เหมือนกันนี่
“เดี๋ยว! ตั้งสติก่อน วันนี้เค้าเป็นคู่แข่งแกนะ!” สามสาวตระกูล ม.ม้า ประสานเสียงห้ามฉันทันที จนฉันได้สติ
“เออ! นั่นสิ...ฉันลืมไปเลย” ฉันนั่งลงเหมือนเดิมและเริ่มใช้ความคิด
“ทำอย่างไรดีนะ อีกห้านาทีงานจะเริ่มแล้วด้วย!” ฉันพูดเบาๆ ขณะที่บรรยากาศภายในร้านเริ่มตึงเครียด หลังจากรับรู้สถานกาณ์
........................................
ทางฝั่งร้านตรงข้าม ซึ่งเป็นที่จัดงานของยัยหลิน
ตอนนี้เต็มไปฝูงชนที่เบียดเสียดด้วยความวุ่นวาย เพื่อจะเข้าไปดูคอนเสิร์ตของพี่”ปาหนี้” โดยทุกคนเบียดเสียดพร้อมชูรองเท้าขึ้นด้วยแขน เพื่อเป็นการแสดงตัวว่าเป็นแฟนเพลงของพี่”ปาหนี้”
เอิ่มมม! ช่างเป็นเหล่าแฟนคลับที่มารยาทดีแท้ ถอดรองเท้าทุกครั้งที่ชมคอนเสิร์ต
“น้องหลินหลิน ตอนนี้ผู้คนแห่มาที่งานเราหมดเลย ไม่มีใครไปที่งานยัยปอร์เช่เลยสักคน” คุณคิมคิมรายงานสถานการณ์
“ดีค่ะ! บอกแล้วว่าวันนี้พวกเราต้องชนะ ถึงเวลาแล้วเดี๋ยว หนูออกไปพบแฟนคลับก่อนนะคะ แล้วสักพักถ้าพี่”ปาหนี้” มาถึงแล้ว ก็ค่อยให้พี่”ปาหนี้” เล่นคอนเสิร์ตต่อตามแผน” ยัยหลินพูดพร้อมเดินออกมาที่หน้าเวทีด้วยความมั่นใจ
“น้องหลินหลินนี่ เหมาะที่จะเป็นศิลปินจริงๆ ยัยเจนนิเฟอร์ พวกแกแพ้ฉันแน่ๆ หุหุ!” คุณคิมคิมพูดกับตัวเองเบาๆ แล้วมองมาที่ร้านฝั่งตรงข้ามด้วยสายตาที่เจ้าเล่ห์
ยัยหลินออกมาทักทายแฟนคลับของตัวเองของของพี่”ปาหนี้” ก่อนจะเริ่มร้องเพลงและทำกิจกรรมซึ่งทุกคนก็ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี เพราะอยากดูพี่”ปาหนี้” หลังกิจกรรมของยัยหลินจบ
แต่ทางฝั่งของฉันแม้ถึงเวลาเริ่มงานแล้ว ก็ยังไม่มีแฟนคลับ เปิดประตูเข้ามาแม้แต่คนเดียว
“พวกเราจะทำอย่างไรดี? คราวนี้คงไม่มีใครมางานของเราแน่ๆเลย” ยัยหม่อนสาวเนิร์ด เริ่มวิตกขณะที่กำลังหาทางแก้ไขสถานการณ์กันอยู่
“พี่สาวซาตี้! มีทางแก้ไขบ้างไหม?” ฉันถามพี่สาวซาตี้ เพราะตอนนี้หมดหนทางจริงๆ ความนิยมของเน็ตไอดอลกับศิลปินระดับประเทศนี่ มันเทียบกันไม่ได้จริงๆ
“ตอนแรกก็ไม่มีหรอก แต่ตอนนี้มีแล้ว!” พี่สาวซาตี้พูดด้วยสีหน้ามั่นใจ
“จริงเหรอ!” พวกฉันพร้อมใจกันประสานเสียงด้วยความดีใจ
“อีกไม่เกินห้านาที แฟนคลับของเจ้าจะมาร่วมงานแน่นอน! หุหุ” พี่สาวซาตี้พูดด้วยแววตาเจ้าเล่ห์ พร้อมมองไปที่ร้านฝั่งตรงข้าม
............................