สวัสดี...กลิ่นฤดูแห่งความรัก
ตอนที่ 32 ความจริงอันน่าสะพรึง
ขณะเดียวกัน ภายในห้องเรียนของนายต้นกล้า  หลังจากที่ไม่สามารถเปิดโปงฉันจากบัญชีสื่อโซเชียลที่โดนลบไปแล้วได้ นายต้นกล้าก็นั่งเรียนด้วยอารมณ์ฉุนเฉียวแทบไม่มีสมาธิกับการเรียน สักพัก...ก็มีเงาสีดำเล็กๆ ล่องลอยไปที่หูของนายต้นกล้า พร้อมเสียงพูด ที่มีแต่นายต้นกล้าคนเดียวที่ได้ยิน
 
“เจ้าหนู! ห้องของเจ้าที่ข้าวางอาคมไว้เหมือนจะมีคนนอกบุกรุกเข้าไป ดูท่าสองสาวนั่นจะรีบไปทำลายหลักฐาน เจ้าต้องรีบจัดการแล้ว” เสียงของซาตานแจ้งเตือนให้นายต้นกล้ารู้ตัว
 
“อะไรนะ! นี่กล้าบุกไปถึงห้องฉันเลยหรือนี่!” นายต้นกล้าอุทานขึ้นพร้อมขออนุญาตคุณครูไปห้องน้ำ
 
“คุณครูครับ ขออนุญาตไปห้องน้ำครับ!”
 
คุณครูวิชาภาษาไทย เมื่อเห็นนายต้นกล้าขอไปห้องน้ำก็อนุญาต จากนั้นนายต้นกล้าก็วิ่งออกจากห้องอย่างรวดเร็ว
 
“สงสัยเด็กใหม่ท้องจะเสีย วิ่งไปห้องน้ำซะเร็วเชียว” คุณครูนึกในใจ และทำการสอนต่อ
 
นายต้นกล้าวิ่งลงจากตึกแล้วตรงไปทางประตูหน้าโรงเรียนทันที!
 
“ปอเทือง! ฉันไม่ให้เธอสมหวังหรอก...คอยดู!” นายต้นกล้านึกในใจ พลางกำมีดคัทเตอร์ในกระเป๋ากางเกงและวิ่งต่อด้วยความเร็วที่มากขึ้น
 
...........................
“พี่สาวซาตี้....นี่มัน!” ฉันอุทานด้วยความตกใจ หลังจากเปิดประตูเข้ามาในห้องของนายต้นกล้า เพราะตอนนี้ภาพที่ฉันเห็นก็คือ.......
 
รูปของฉันในอดีตมากมาย ที่อ้วน ล่ำ ดำ ถึก ถูกติดเต็มผนังห้อง!
 
ทั้งรูปหมู่ รูปเดี่ยว มีหลายรูปที่ฉันไม่เคยรู้ว่าจะมีคนแอบถ่ายไว้ ก็เพิ่งได้เห็นวันนี้ รูปทั้งหมดถูกติดบนผนังทุกด้าน ไม่เว้นแม้แต่เพดาน
 
ยิ่งพอมองไปตรงหัวเตียง ฉันยิ่งตกใจมากกว่าเดิม  เพราะมีโปสเตอร์แผ่นใหญ่อยู่แผ่นหนึ่งเป็นรูปคู่รักในชุดวิวาห์ แต่ใบหน้านั้น ถูกแทนลงด้วยหน้าของฉันในร่างเก่าและนายต้นกล้าในร่างเก่าเช่นกัน
 
พร้อมข้อความที่เขียนว่า......
 
“เราจะอยู่ด้วยกัน....ตลอดไป”
 
“นายต้นกล้าทำแบบนี้ นี่มันเป็นโรคจิตชัดๆ ” ฉันมองดูบรรยากาศโดยรอบด้วยความรู้สึกหวาดกลัว ที่นายต้นกล้าทำตัวเหมือนพวกโรคจิตในหนังที่เคยดู ยิ่งพอเห็นว่านายต้นกล้าใช้แต่รูปในอดีต ไม่มีรูปตอนปัจจุบันเลย ทำเอาฉันเริ่มจิตตก
 
พี่สาวซาตี้มองไปรอบๆ และพูดกับฉันว่า
 
“ยัยหนู! ท่าทางเด็กคนนี้ น่าจะแอบชอบเจ้าตั้งแต่เรียนที่เก่า โดยไม่สนใจเรื่องรูปร่างและหน้าตาของเจ้า”
 
“หา!...ไม่ใช่นายต้นกล้าแค้นหนู ที่เป็นต้นเหตุทำให้เค้าโดนรังแกมากขึ้นเหรอ?” ฉันรู้สึกว่าไม่น่าจะใช่
 
“เด็กโง่! หากเด็กคนนี้โกรธแค้นเรื่องโดนรังแก คงไปแก้แค้นกับเด็กคนอื่นๆไปแล้ว แต่นี่กลับพุ่งเป้าหมายมาที่เจ้า ท่าทางตอนเรียนเจ้าอาจเป็นคนสำคัญของเขาที่สุด จนไม่อยากแยกจากกัน” พี่สาวซาตี้วิเคราะห์ให้ฟัง
 
“แต่ตอนนั้น! หนูคุยกับนายต้นกล้าแทบนับครั้งได้เลยนะ!” ฉันอธิบายเพิ่มเติม
 
“บางทีความหวังดีของเจ้าเพียงเล็กน้อย ก็ทำให้คนบางคนที่สิ้นหวัง มองเห็นแสงสว่างที่ปลายอุโมงค์ และยึดถือเจ้าเป็นสิ่งยึดเหนี่ยวในชีวิตก็ได้ พอวันหนึ่ง...ที่ไม่มีเจ้า เด็กคนนี้อาจรู้สึกเหมือนถูกทอดทิ้งและไม่เหลือใคร จนกลายเป็นความแค้นแทน”
 
“ไม่เป็นไร! เดี๋ยวเราค่อยหาวิธีจัดการกับนายต้นกล้า ตอนนี้รีบทำลายรูปพวกนี้ก่อนเถอะ” พี่สาวซาตี้เตือนสติฉัน
 
“ใช่ๆ! ” ฉันเริ่มได้สติอีกครั้ง และรีบเก็บรูปทั้งหมดลงถุงดำที่เตรียมไว้
 
................................
 
“ป้าครับ! มีคนมาที่ห้องผมหรือเปล่า!” นายต้นกล้าถามคนดูแลหอพัก ด้วยร่างที่เต็มไปด้วยเหงื่อและหายใจหอบเพราะความเหนื่อย
 
“อ้าว! เห็นสองคนนั่นบอกว่าป่วยอยู่โรงพยาบาลนี่ หายแล้วหรือ!” คนดูแลหอพักตกใจ ที่เห็นนายต้นกล้ากลับมาตอนนี้
 
นายต้นกล้าไม่ตอบ แต่วิ่งต่อและตรงดิ่งมาที่ห้องด้วยความรวดเร็ว
 
“ปอเทือง! เธอรู้ความลับของฉันแล้ว ฉันคงปล่อยเธอไปไม่ได้!” นายต้นกล้าวิ่งตรงขึ้นบันได พร้อมหยิบมีดคัทเตอร์ออกมาเตรียมพร้อม
.......................
 
ในขณะที่ฉันเก็บรูปอยู่นั้น บนโต๊ะของนายต้นกล้าก็มีไดอารี่ที่ดูเก่าอยู่สี่เล่ม ฉันจึงเปิดออกดูเผื่อว่าจะมีรูปฉันแอบอยู่ข้างใน และฉันก็ตกใจ เพราะเนื้อหาในไดอารี่มีแต่เรื่องราวของฉัน
 
“12 พฤษภาคม xxxx วันเปิดเรียนวันแรก ฉันก็โดนเพื่อนล้อเรื่องขี้มูกยืด ฉันไม่กล้าเถียงเพื่อนเพราะกลัวโดนต่อย ที่เพื่อนใหม่ของฉันที่ชื่อปอเทือง มาเถียงเด็กพวกนั้นจะจัดการต่อยทันที เธอช่างเป็นผู้หญิงที่สวยประหลาดและเข้มแข็งจริงๆ”
 
หา!...สวยประหลาดและเข้มแข็ง นี่รสนิยมเรื่องผู้หญิงของนายต้นกล้านี่มันเป็นยังไงกันแน่นะ!
 
“17 พฤษภาคม xxxx ฉันดีใจมากที่คุณครูให้ฉันนั่งด้วยกันกับปอเทือง ทุกครั้งที่ฉันชำเลืองไปมองหน้าเธอ ฉันเหมือนคนที่ค้นพบโลกใบใหม่ ที่มีพื้นผิวขรุขระ เหมือนฉันได้อยู่ใกล้ดวงจันทร์.......”
 
“เพื่อนๆล้อฉันกับปอเทืองว่าเราเป็นแฟนกัน ฉันรู้สึกดีใจ แต่ปอเทืองดูไม่ชอบ ฉันจึงต้องแกล้งทำไม่ชอบตาม แต่ในใจแล้ว นี่เป็นวันที่ฉันมีความสุขที่สุด..... ”
 
ตึง!....ฉันฟาดไดอารี่เล่มนั้นลงบนโต๊ะ หลังจากอ่านไปได้ไม่นาน นี่มัน...ไม่ใช่โรคจิตอย่างเดียวแล้ว! นายคนนี้มันบ้าชัดๆ!
 
“เป็นอะไรยัยหนู! เกิดอะไรขึ้น?” พี่สาวซาตี้ตกใจที่ฉันทำเสียงดัง
 
“ไม่มีอะไรค่ะหนูแค่รู้สึกโมโห! พี่สาวซาตี้ เราเผาห้องนี้กันเลยดีไหมคะ!”
 
“หา!..............” พี่สาวซาตี้ทำหน้าเหวอ เมื่อได้ยินฉันพูดด้วยน้ำเสียงที่เคียดแค้น
 
..................................
 
“ปล่อย!.. ปล่อยหนู!” ฉันร้องโวยวาย ในมือกำไฟแช็คอยู่
 
“ยัยหนูใจเย็น!..” พี่สาวซาตี้ร้องโหวกเหวก ด้วยความตกใจ
 
“จากคดีลักทรัพย์ เดี๋ยวมันจะกลายเป็นวางเพลิง คิดให้ดีๆนะ!” พี่สาวซาตี้งัดข้อกฎหมายมาอธิบาย เพื่อหวังให้ฉันใจเย็นขึ้น แต่ฉันก็ดึงดันจะเผามันให้หมด จนกลายเป็นความวุ่นวายอยู่ภายในห้อง
 
ในขณะที่พี่สาวซาตี้กำลังห้ามฉันไม่ให้เอาไฟแช็คไปจุดไฟเผาห้องนายต้นกล้าอยู่นั้นเอง ฉันก็เสียงฝีเท้าของคนหยุดอยู่หน้าห้อง
 
“แย่แล้ว! มีคนมา!” ฉันกับพี่สาวซาตี้พูดพร้อมกันและพยายามหาที่หลบ
 
ทันใดนั้นเอง! เสียงใช้การ์ดเปิดประตูก็ดังขึ้น พร้อมมีคนเปิดประตูเข้ามา
 
“ปอเทือง! ครั้งนี้เธอหนีฉันไม่พ้นแน่ๆ”
 
นายต้นกล้าพูดกับตัวเอง พลางดันประตูเข้ามาพร้อมกับถือมีดคัทเตอร์ในมือและใบหน้าตอนนี้เหมือนกับฆาตกรโรคจิต!
 
.......................
 
 
 
ตอนต่อไป
ตอนที่ 33 เปิดศึก