ขณะที่เปิดประตูเข้ามาอย่างรวดเร็วนั้น นายต้นกล้าก็วิ่งพร้อมถือมีดคัทเตอร์เข้ามาอย่างรวดเร็ว
“พวกเธอเสร็จฉันแน่!.....” ใบมีดในมือส่งประกายขาววับ ปาดไปมาจนทั่ว นายต้นกล้าที่หลับตาตั้งแต่ตอนเข้ามาก็ลืมตาขึ้น
“ไม่มี! สองคนนั้นไปไหน!” สายตามองรอบห้องก็ไม่พบกับร่างของคนที่ตามหา จนนายต้นกล้ารู้สึกมึนงง แต่แล้วก็กลับโมโหมากขึ้น เมื่อเห็นภาพที่เคยติดผนังหายไปจนหมด รวมถึงไดอารี่และโน้ตบุ๊คที่เคยวางอยู่บนโต๊ะ
บนโต๊ะเขียนหนังสือมีกระดาษแผ่นเล็กๆ วางอยู่ นายต้นกล้าจึงเดินเข้าไปและหยิบขึ้นมาดู ก็พบตัวหนังสือเขียนด้วยลายมือว่า
“ถ้านายยังเปิดโปงอดีตของฉันหรือแจ้งความเรื่องบุกรุก ฉันจะแจ้งความกลับเรื่องนายเป็นคนโรคจิตพร้อมหลักฐานภาพถ่ายในห้องและข้อมูลในโน๊ตบุ๊ค คราวนี้ฝันร้ายเรื่องบูลลี่ในตอนเด็กของนาย จะกลับมาแน่นอน ฉันสัญญา!”
นายต้นกล้าอ่านโน๊ตที่ฉันเขียนทิ้งไว้ให้จบ ก็คลุ้มคลั่งราวกับคนบ้า
“ไม่!....ปอเทืองทำไมเธอทำกับฉันแบบนี้! เราจะได้เห็นดีกัน!”
.................................
“โห! เมื่อกี้ตกใจแทบแย่ ใครจะคิดว่าคนดูแลหอจะใจดีเอาถุงขยะมาให้!” ฉันหันไปพูดกับพี่สาวซาตี้ ขณะที่นั่งเผารูปและของบางอย่าง ที่โกดังร้างแห่งหนึ่ง
“ใช่! ข้าเองก็หัวใจจะวาย แต่ว่าตอนที่เดินออกมาสักพัก เหมือนจะเหมือนจะเห็นคนไกลลิบๆคล้ายๆนายต้นกล้าอยู่นะ” พี่สาวซาตี้พูดขณะนั่งเผามันญี่ปุ่นไปด้วย
ในขณะที่ฉันนั่งเผารูปและกำลังคิดอะไรอยู่
“ยัยหนู! แล้วทีนี้เจ้าจะทำอย่างไรต่อไป?” พี่สาวซาตี้ถามพลางส่งมันเผาที่สุกแล้วให้ฉัน
“ตอนนี้นายต้นกล้าคงเงียบไปสักพัก หนูก็คงต้องเตรียมแผนสำรองกับเร่งเรื่องภารกิจดอกอาฮวนให้จบโดยเร็ว...ส่วนหลักฐานทั้งหมด หนูจะขุดหลุมฝังไว้ที่นี่ก่อนน่าจะปลอดภัย เผื่อในอนาคตเราอาจจะต้องใช้” ฉันตอบพี่สาวซาตี้ขณะกินมันเผาไปด้วย
คติในการแก้ปัญหาของฉันก็คือ ถ้าปัญหาบางเรื่องคิดมากไปก็ปวดหัว ให้ตัวฉันพรุ่งนี้คิดแทนแล้วกัน ฮ่าๆๆ!
............................
หลังจากนั้นนายต้นกล้าก็หายเงียบไป ขนาดเดินในโรงเรียนยังไม่เคยเห็นหน้าเห็นตากัน ทำเอาฉันและพี่สาวซาตี้เริ่มเบาใจไปได้บ้าง แต่ก็ไม่ประมาท พวกเราเฝ้าคิดแผนโต้ตอบและเตรียมพร้อมอยู่ตลอดเวลา
ส่วนการประกวด T idol ก็เริ่มเข้าสู่รอบสองอย่างเป็นทางการ เพลงของฉันได้ถูกเริ่มทำเป็นเพลงเร็วและต้องคิดท่าเต้นด้วยตัวเอง ขณะที่เพลงของยัยหลินได้เปิดตัวก่อนและก็กลายเป็นกระแสในทันที
“เพลงเร็วของหลินหลิน จังหวะและทำนองดีมากแถมท่าเต้นก็ทันสมัย ไม่น่าเชื่อเชื่อว่าเด็กคนนี้จะมีพรสวรรค์มากขนาดนี้” ผู้ประกาศข่าวบันเทิงช่องหนึ่งรายงานเกี่ยวกับกระแสเพลงของยัยหลิน
ซึ่งหลังจากนั้นก็มีหลายช่องนำเสนออย่างมากมาย จนกลายเป็นกระแส........ลบ
“สื่ออวยกันเกินไป! เดิมเนื้อเพลงที่แต่งก็ธรรมดา ได้ดนตรีมาช่วยก็ดีขึ้นไม่มาก ไปเห็นติดหูเลย”
“ท่าเต้นเริ่ดมากๆ ก็ไปก็อปศิลปินคนอื่นมาตั้งเยอะ จะไม่เริ่ดได้อย่างไร!”
‘’พวกเธอไม่รู้อะไร ที่สื่ออวยกันขนาดนี้เพราะบ้านน้องหลินหลินมีฐานะ ใช้เงินส่วนตัวซื้อสื่อโปรโมทกันแทบทุกช่อง แบบนี้อย่าประกวดเลยดีกว่า”
ในโลกโซเชียลมีผู้คนตั้งข้อสังเกตเกี่ยวกับเพลงของยัยหลินมากมายที่เป็นกระแสทางลบ เพราะคิดเห็นสวนทางกับสื่อหลักทั่วไป แต่ก็เพียงเท่านั้นเพราะอย่างไรตอนนี้เพลงของยัยหลินก็เริ่มไต่ชาร์ตเพลงแล้ว
ส่วนฉันหลังจากที่อัดเสียงร้องเพลงและทำดนตรีเสร็จแล้ว ก็ถึงเวลาที่ต้องแสดงท่าเต้นให้กับพี่เบียร์ พี่โอมและทีมงานดู ก่อนถ่ายทำ MV
ทันทีที่เสียงเพลงของฉันดังขึ้น ฉันก็ยืนนิ่งสักพักและเริ่มขยับตามที่คิด ในตอนที่กำลังเต้น เสียงพูดของพี่เต้ ดิหรอก ครูสอนเต้นของฉันก็ดังขึ้นในหัว
“ปลดปล่อยความเป็นตัวตนของเธอออกมา! ครูรู้ว่าเธอทำได้”
ฉันขยับตามท่วงทำนองไปเรื่อยๆราวกับได้ปลดปล่อยตัวเองสู่อิสระ และในที่สุดเพลงของฉันก็จบลง
ฉันรู้สึกผิดปกติที่ทำไมทุกคนถึงเงียบ จึงลืมตามองทีมงานทุกคนที่ตอนนี้กำลังอ้าปากค้างและแข็งทื่อกันอยู่
“เอิ่มมม! พี่ๆคะหนูต้องคิดท่าเต้นใหม่ใช่ไหมคะ?” ฉันโค้งตัวขอโทษทุกๆคนที่ทำให้พวกเขาต้องมาเสียเวลาในวันนี้
“ไม่! ไม่เลย ท่าเต้นนี้มันสุดยอดมาก!” พี่เบียร์เป็นคนแรกที่ได้สติแล้วพูดกับฉัน
“ใช่! แม้มันจะดูแปลก ไม่เหมือนท่าเต้นของไอดอลทั่วไป แต่ก็มีเอกลักษณ์ที่โดดเด่นและเข้ากับเพลงมาก” พี่โอมกล่าวชมฉัน จากนั้นทั้งทีมก็เข้ามาแสดงความยินดี และแนะนำบางช่วงให้ฉันได้แก้ไข
“เอาล่ะ! หลังจากนี้อีกหนึ่งอาทิตย์เราจะถ่าย MV ของน้องปอร์เช่และส่งเข้าประกวดได้!” พี่โอมสั่งทีมงาน และมองฉันด้วยสีหน้าที่ภูมิใจ
หลังจากนั้นไม่นาน พวกเราก็ถ่ายทำและตัดต่อเสร็จ วันนี้ก็เป็นวันแรกที่ MV ของฉันได้ฤกษ์เปิดตัว และเป็น MV ตัวสุดท้ายของผู้เข้าประกวดที่เข้ารอบที่สองนี้
ตึ่ด!....ตึ่ด!....ตึ่ด!.... ตะลุงต้งแช่!
เสียงกลองและแคนดังขึ้น ต่อด้วยเสียงพิณในจังหวะสนุกสนาน ฉันในชุดไทยอีสานประยุกต์ก็ออกมาเต้นฟ้อนในสไตล์ใหม่ ที่ผสมกับท่ารำไท่เก๊กและท่าอื่นๆที่คนเขาไม่เต้นกัน วาดลวดลายออกสเต็ปตามจังหวะเพลงที่ทำใหม่ในแนว “รำซิ่งป๊อปอิเลคโทรนิคแดนซ์” ที่ชวนให้เลือดลมสูบฉีดพร้อมออกมาเต้นเป็นอย่างมาก
พนักงานรักษาความปลอดภัยของบริษัทแห่งหนึ่ง ได้เห็น MV ของฉันจากจอ LED ของตึกฝั่งตรงข้าม เขามองไปที่จอด้วยความตะลึง ก่อนพูดว่า
“โอ๊ย!...เต้นได้ม่วนแท้...จ้วดดดดดด”
ก่อนขยับเท้าและเริ่มเต้นตาม
และอาการของคนที่ดู MV ตัวแรกของฉัน ก็เริ่มจากพนักงานรักษาความปลอดภัยคนนี้และก็เริ่มลามไปเรื่อยๆ.............
.........................