ทันทีที่ข่าวนี้แพร่ออกมาพร้อมรูปสมัยก่อน! เรื่องของฉันก็เป็นกระแสอย่างรวดเร็ว!
“จากเนื้อข่าวต้องเป็นน้องปอร์เช่แน่ๆ ฟันธงค่ะ! ถึงว่าหน้าตาดูสวยแปลกๆ รูปเก่านะดูไม่ได้เลย อ้วนดำๆ ” จาก “ใครอย่าสวยกว่ากู”
“เบื้องหลังชีวิตนางแซ่บ!!!กว่าพริกร้อยเม็ดอีกนะ ใจแตกตั้งแต่เด็กแล้วก็ท้องไม่มีพ่อด้วย! สงสัยไปทำหน้าใหม่มาคงจะหิวผู้ชายมาก!” จาก “คุณแม่วัยใสแต่หน้าแก่”
“ได้ข่าวว่าบินไปทำนมที่ต่างประเทศด้วยนะ! สงสัยกลับมาคงใหญ่มากกว่าเดิม อีกหน่อยคงเสพติดศัลยกรรม” จาก “เรื่องเผือกคืองานเรา”
“เห็นรูปเก่าแล้วตกใจ! ไม่น่าเชื่อว่าคนเราจะลงทุนไปทำศัลยกรรมตั้งแต่เด็ก ยอมใจหมอจริงๆ ตอนทำสงสัยจะทำเป็นเดือน” จาก “มีวันนี้เพราะหมอให้”
“หลงเชียร์ตั้งนานที่แท้ก็หลอกลวง! แบบนี้เป็นตัวอย่างที่ไม่ดี ทางค่ายควรต้องรับผิดชอบนะ!” จาก “ไม้บรรทัดวัดแต่คนอื่น"
กระทู้มากมายผุดขึ้นอย่างกับดอกเห็ด ซึ่งมีกระทู้น้อยมากที่จะเข้าข้างฉัน กลายเป็นไฟลามทุ่งในโลกโซเชียลที่ร้อนแรงจนช่องโทรทัศน์ยังต้องเสนอข่าว
“ตอนนี้ดิฉันอยู่ที่บ้านของน้องปอร์เช่ที่ตกเป็นข่าวดังนะคะ พวกเราปักหลักเพื่อมาถามคุณยายและคุณแม่ของน้องปอร์เช่ค่ะ.........”ผู้สื่อข่าวสาวคนหนึ่ง รายงานข่าวอยู่หน้าบ้านของฉัน
เพราะข่าวสามารถทำให้ช่องได้เรทติ้งดี โฆษณาก็จะหลั่งไหลมามากเช่นกัน ทำให้หลายครั้งนักข่าวเองก็ดูจะต้องการเงินมากกว่ากล่องรางวัลและจรรยาบรรณ
ส่วนผู้คนมากมายก็มักจะตอบสนองกับข่าวร้ายๆของคนอื่นมากกว่าข่าวดี และมักจะมีความสุขบนเรื่องแย่ๆของคน แม้เรื่องเหล่านั้นจะเป็นเรื่องไม่จริงก็ตาม!
“น้องปอร์เช่เป็นมนุษย์ต่างดาว!” จาก “แอเรีย54”
เอิ่มม! กระทู้นี้ก็ดูน่าเหลือเชื่อไปนะ! อันนี้คงไม่นับ!
เราทุกคนเกลียดการบูลลี่และรู้ว่ามันเป็นสิ่งไม่ดี แต่ใครจะคิดว่าการที่เราทุกคนพูดเรื่องเหยียดเกี่ยวกับรูปร่างหน้าตาคนอื่นทั้งที่ไม่ได้รู้จักกันด้วยความคะนองปาก นั่นก็ถือเป็นการบูลลี่เช่นกัน และตอนนี้ฉันเองก็กำลังถูกบูลลี่ระดับชาติ
โดยที่ตัวฉันเองไม่เคยรับรู้สิ่งต่างๆ เหล่านี้เพราะขังตัวเองอยู่แต่ในห้อง
“ฮ่าๆๆ ปอเทือง! ถึงเธอจะลบและเอารูปจากฉันไปทั้งหมด แต่เงินก็ซื้อได้ทุกอย่าง เธอคงไม่คิดใช่ไหม ว่าฉันจะติดต่อขอซื้อรูปเก่าๆพวกนี้ มาจากเพื่อนร่วมห้องคนอื่น!” นายต้นกล้าหัวเราะเสียงดัง เมื่อเห็นข่าวของฉันทางโทรทัศน์และในโลกโซเชียล
“ภารกิจของเจ้าใกล้สำเร็จแล้ว เหลือเพียงให้ยัยเด็กสาวคนนั้นออกมายอมรับเรื่องทำพันธสัญญา แค่นี้ก็เรียบร้อย” เสียงซาตานดังขึ้นภายในห้อง
“ท่านซาตาน! ข้อนี้จะมีคนเชื่อหรือ? แล้วท่านเป็นอย่างไรบ้าง หมู่นี้ไม่ได้ปรากกฏตัวออกมาเลย?” นายต้นกล้าถามซาตาน
“สมัยนี้ผู้คนอาจจะไม่เชื่อก็จริง! แต่ถ้าทำให้ยัยเด็กนั่นพูดออกมาได้เอง ก็ถือว่าภารกิจเปิดโปงของเจ้าก็จะสำเร็จและอยู่ในร่างใหม่นี้ได้ตลอดไป ส่วนตอนนี้ข้ามีพลังเหลือน้อยเกินไปเลยปรากฏตัวไม่ได้ รอให้เจ้าทำภารกิจเสร็จ ยัยเด็กนั่นก็จะล้มเหลวในการทำพันธสัญญา และข้าก็จะได้พลังกลับมาอีกหลายเท่า ฮ่าๆๆ!” เสียงซาตานหัวดังขึ้นกว่าเดิม
ที่แท้การใช้เวทย์ต้องห้ามนั้น นอกจากจะทำให้เวทย์มนต์เดิมที่เคยได้รับไร้ผลแล้ว ยังเป็นการขโมยพันธสัญญาอีกด้วย แม้เวทย์ต้องห้ามจะอันตราย แต่หากฉันทำภารกิจไม่สำเร็จ ซาตานก็จะได้รับพลังและอายุขัยมากกว่าเดิมอีกหลายเท่า ช่างเป็นการเสี่ยงที่คุ้มค่าจริงๆ
............................
“เป็นอย่างไรบ้างคะน้องหลินหลิน ทีมข่าวของเราทำงานดีไหมคะ?” คุณคิมคิมพูดขึ้นเมื่อเห็นข่าวในโทรทัศน์
“ครั้งนี้ทำได้ดีมากค่ะ! หนูจะเพิ่มโบนัสให้เป็นพิเศษนะคะ ว่าแต่เพลงที่จ้างนักแต่งเพลงจากอเมริกาเสร็จแล้วใช่ไหม?” ยัยหลินถามต่อเรื่องเพลงที่จะใช้ในรอบสุดท้าย
“เรียบร้อยแล้วค่ะ! นอกจากทำนองและดนตรีที่สุดยอดแล้ว เรายังได้นักแต่งเพลงมือพระกาฬระดับประเทศมาแต่งเนื้อเพลงถภาษาไทยให้ด้วย อีกสองวันคุณหลินหลินก็เข้าห้องอัดได้เลยค่ะ” คุณคิมคิมรายงานพร้อมทำท่าประจบประแจง
“ดีค่ะ! รอบสุดท้ายจะไม่นับเอาคะแนนก่อนหน้านี้มารวม คราวนี้แหละหนูจะต้องชนะเลิศให้ได้!” ยัยหลินมองไปที่จอโทรทัศน์ ด้วยสายตาเหมือนตัวร้ายในละคร
“พี่โอมครับ! ตอนนี้ข่าวเรื่องน้องปอร์เช่ดังมาก มีหลายคนอยากให้ทางค่ายแสดงจุดยืนเรื่องนี้ พวกเราควรทำอย่างไรดีครับ?” พี่เบียร์ถือหนังสือพิมพ์เดินเข้ามาในห้องทำงานของพี่โอม แล้ววางให้พี่โอมอ่านบนโต๊ะ
“พี่เห็นแล้ว! ก็ไม่มีอะไรน่าเป็นห่วงนี่!” พี่โอมตอบนิ่งๆเหมือนไม่ได้รู้สึกอะไรกับเรื่องนี้
“หา! เรื่องใหญ่ขนาดนี้ ทำไมพี่ยังใจเย็นอยู่ได้? ผมละสงสัยจริงๆ!” พี่เบียร์ถามพี่โอม
“เบียร์! ในวงการบันเทิงการมีข่าวไม่ดีก็เป็นการโปรโมทอย่างหนึ่ง อยู่ที่ใครจะรู้จักฉวยโอกาสนั้นแล้วคว้าเอาไว้ ตอนนี้เรทติ้งรายการของเราถล่มทลายมาก เพลงที่ปล่อยออกไปก่อนหน้านี้ก็มียอดวิวสูงขึ้นเกือบทุกเพลง พี่คุยกับผู้ใหญ่แล้ว ไม่ต้องเป็นห่วง” พี่โอมอธิบาย
“แล้วเรื่องน้องปอร์เช่! พี่โอมจะทำอย่างไรต่อครับ?” พี่เบียร์ถามต่อ
“ว่ากันตามตรง พี่ไม่ค่อยเชื่อข่าวพวกนี้หรอก แต่ถึงน้องปอร์เช่จะทำศัลยกรรมมาจริง ก็เป็นสิทธิ์ของน้องเขา ก็ไม่ได้ทำให้ใครเดือดร้อนนี่?” พี่โอมอธิบายเพิ่ม
“แต่คนส่วนใหญ่หาว่าพวกเราและน้องหลอกลวงผู้ชมนะครับ แถมยังมีข่าวร้ายๆอื่นๆอีก ผมเกรงว่าหากน้องยังประกวดต่อ จะเป็นผลเสียทั้งทางเราและทางน้องปอร์เช่” พี่เบียร์พูดในสิ่งที่คิด
“ผู้คนในวงการบันเทิงบ้านเราก็ทำศัลยกรรมกันทั้งนั้น ไม่เว้นแม้แต่ศิลปินระดับโลก พวกเราตามหาไอดอลรุ่นใหม่ที่มีความสามารถ พี่มั่นใจว่าถ้าเราติดต่อน้องปอร์เช่ได้ พี่มีหนทางช่วยน้องไม่ให้ตกเป็นเหยื่อของการบูลลี่ระดับประเทศได้เช่นกัน ห่วงก็แต่....น้องปอร์เช่จะรู้ข่าว แล้วด่วนตัดสินใจบางอย่างโดยไม่ได้ปรึกษากับพวกเราก่อน” พี่โอมพูดขึ้นและทำหน้าคิดมากตอนช่วงท้าย
“พี่ไม่ต้องห่วง! ถ้าพี่มั่นใจว่าช่วยน้องได้ ผมและทีมจะพยายามติดต่อน้องปอร์เช่และคุณเจนิเฟอร์ให้ได้โดยเร็วครับ” พี่เบียร์ยืนยันหนักแน่น
ชีวิตคนเราแม้จะพบเจอเรื่องร้ายๆจากคนรอบข้าง อย่างน้อยก็คงจะมีผู้คนที่คอยช่วยเหลือเช่นกัน ฉันรู้ซึ้งถึงคำนี้ก็ตอนที่เจอปัญหาครั้งใหญ่นี่แหละ
แต่ก็ไม่รู้นะ...ว่าฉันเองจะผ่านมันไปได้ในรูปแบบไหน
........................................
ณ บ้านหลังหนึ่งที่ต่างจังหวัด หลังข่าวของฉันออกอากาศ เสียงโวยวายเสียงหนึ่งก็ดังขึ้นลั่นบ้าน
“แม่! แม่เป็นไร?” แม่ของฉันตกใจเมื่อเห็นยายของฉันที่กำลังยืนดูโทรทัศน์อยู่ แล้วล้มลงอย่างกระทันหัน
“ปอเอ๊ย! ปอหลานรักของยาย...” เสียงยายพร่ำเรียกชื่อของฉัน
ขณะที่นอนนิ่ง...อย่างไร้เรี่ยวแรง!
...............................