“เช็ดน้ำตาก่อน แล้วแต่งตัว เราจะไปเยี่ยมยายของเจ้ากัน เรื่องอื่นข้าจะอธิบายหลังจากกลับมา” พี่สาวซาตี้คลายกอดและลูบที่หัวของฉัน
“ยาย! เกิดอะไรขึ้นกับยาย?” ฉันถามพี่สาวซาตี้ด้วยความตกใจ
“ยายของเจ้าคงจะเครียดกับข่าวที่เกิดขึ้นกับเจ้า เจ้าคงไม่รู้ว่าตอนนี้เรื่องของเจ้ากลายเป็นข่าวใหญ่โต ดูเหมือนจะมีคนพยายามโจมตีชื่อเสียงและขุดคุ้ยประวัติเดิม ข้าเคยไปเปิดเบอร์มือถือไว้ให้แม่ของเจ้าไว้สำหรับโทรหาได้คนเดียว พอรู้ข่าวก็เลยรีบกลับมา”
“แล้วยายของหนูเป็นอย่างไรบ้าง! พี่สาวซาตี้?” ฉันเริ่มจะร้องไห้อีกครั้ง เพราะเป็นห่วงยาย
“ไม่ต้องกังวลมากไป ยายของเจ้าปลอดภัยดีและกลับบ้านแล้ว หมอตรวจแล้วบอกว่าแค่เครียดมากเกินไป ไม่มีอาการอื่นที่น่ากลัว” พี่สาวซาตี้อธิบาย
“แล้วหนูจะไปอย่างไร ขืนไปแบบนี้แม่กับยายคงตกใจมากกว่าเดิมแน่ๆ?” ฉันถามพี่สาวซาตี้ถึงเรื่องร่างเดิม
“ไม่ต้องห่วง หลังจากที่ซาตานใช้เวทย์ต้องห้ามกับพันธสัญญา พลังของข้าก็กลับมามากกว่าเดิมชั่วคราว ครั้งนี้เราจะหายตัวไปและสะกดให้แม่กับยายของเจ้าหลับสนิท เจ้าจะได้สามารถเข้าไปเยี่ยมยายได้แบบไม่มีใครเห็น” พี่สาวซาตี้อธิบาย
“แต่พี่สาวซาตี้เคยบอกว่าห้ามใช้พลังแทรกแซงเรื่องพันธสัญญา จะไม่เป็นไรใช่ไหมคะ?” ฉันถามขึ้นอีกครั้ง เพราะก่อนหน้านี้พี่สาวซาตี้ไม่ได้ใช้เวทย์มนต์ช่วยฉันเลย
“ตอนนี้พันธสัญญาถูกยกเลิกชั่วคราว มันเลยไม่มีผลกระทบอีกอย่าง ก็ถือเป็นเรื่องของข้าด้วยเพราะข้าเป็นผู้จัดการส่วนตัวของเจ้า จึงไม่เกี่ยวข้องกับเรื่องทำพันธสัญญา” พี่สาวซาตี้อธิบาย
เมื่อรู้แบบนี้ฉันจึงรีบแต่งตัวใหม่และหายตัวกลายเป็นควันไปกับพี่สาวซาตี้และไปโผล่ที่บ้านต่างจังหวัดทันที
ตอนนี้เราสองคนยืนอยู่ภายในบ้าน พี่สาวซาตี้หลับตาแล้วทำปากพึมพำ จากนั้นก็ใช้มือกวาดออกไปรอบๆบ้าน ควันสีดำก็กระจายไปโดยทั่วบ้าน
“ข้าสะกดทุกคนในบ้านให้หลับลึกหมดแล้ว แต่มนต์นี้จะอยู่ได้ไม่นาน เจ้ารีบเดินเข้าไปเยี่ยมยายกับแม่ก่อนเถอะ” พี่สาวซาตี้บอกกับฉัน
ฉันพยักหน้า ก่อนเดินตรงไปที่ห้องของยายแล้วเปิดประตู ก็เห็นยายนอนหลับสนิทบนเตียง
ยายนอนหลับยิ้มอย่างมีความสุข แต่ดูผอมลงเล็กน้อย คาดว่าคงเครียดกับเรื่องของฉันมากเกินไป
ฉันกำลังลงข้างๆเตียงแล้วนั่งกุมมือยาย แม้ว่ายายจะไม่เป็นอะไรมากนัก แต่ฉันก็รู้สึกเจ็บปวดที่หัวใจเหมือนมีใครเอาเข็มมาแทง
“ยายจ๋า..หนูขอโทษที่ทำให้ยายเป็นแบบนี้ ยายไม่ต้องเป็นห่วงแล้วหายเร็วๆนะ หนูจะรีบแก้ไขปัญหาให้จบเร็วที่สุด แล้วกลับมาหายายใหม่” ฉันพูดกับยายอยู่คนเดียว แม้รู้ว่ายายไม่ได้ยิน แต่ก็ดีใจที่ได้มาอยู่ตรงนี้
ฉันปล่อยมือยายและห่มผ้าให้ยายใหม่ ก่อนเดินไปหาแม่ที่ห้องเพราะความคิดถึง ฉันกอดแม่และพูดกับแม่เช่นกัน
“แม่ไม่ต้องห่วงนะ หนูสบายดี เรื่องทั้งหมดหนูจะรีบจัดการ หนูสัญญาว่าคนที่ทำให้ยายเป็นแบบนี้ต้องได้รับโทษแน่นอน” ฉันพูดให้คำสัญญากับแม่
“พี่สาวซาตี้! พวกเรากลับกันเถอะ” ฉันเดินออกมาจากห้องของแม่แล้วเดินมาอยู่ตรงหน้าของพี่สาวซาตี้
“ยัยหนู! สีหน้าของเจ้าดูดียิ่งกว่าตอนมาเสียอีก ดูท่าการพาเจ้ามาเยี่ยมยายน่าจะไม่เสียเปล่า” พี่สาวซาตี้พูดขึ้นหลังจากเห็นหน้าของฉัน
“หนูกลับมาเป็นคนเก่าแล้ว พวกเรารีบหาทางแก้ไขปัญหานี้กันดีกว่าค่ะ” ฉันพูดกับพี่สาวซาตี้ด้วยสีหน้าที่มุ่งมั่น ไม่นานเราสองคนก็กลายเป็นควันสีดำแล้วหายไป
ตอนนี้ฉันสบายใจขึ้น ความรู้สึกท้อแม้สิ้นหวังต่างๆ มันหายไปหมด กลายเป็นไฟแห่งความแค้นที่ทำให้ฉันอยากเอาชนะคนพวกนั้นและทำให้พวกเขามาขอโทษครอบครัวของฉันให้ได้
รอก่อนนะทุกคนอย่าเพิ่งรีบเป็นอะไรไป! เพราะตอนนี้ฉันกำลังจะเริ่ม...เอาคืน!
............................
หลายวันผ่านไป หลังจากเรื่องราวของฉันเป็นข่าวดัง ทางค่ายเพลงก็มีการปรับเปลี่ยนแผนใหม่ โดยจะให้การแสดงสดรอบสุดท้ายนั้นเลื่อนมาเร็วขึ้น
“พี่โอมทำไมกำหนดการรอบการแสดงสด ถึงได้เลื่อนขึ้นมาเร็วขนาดนี้ น้องปอร์เช่ยังไม่ได้อัดเพลงแล้วปล่อยออกไปเลยนะ อย่างนี้คะแนนสะสมก็ไม่มีน่ะสิ” พี่เบียร์เดินเข้ามาคุยกับพี่โอมที่ห้องทำงาน
“ใช่แล้ว! ผู้ใหญ่เพิ่งสรุปกันมา เพราะบอกว่าตอนนี้กระแสเรื่องของน้องปอร์เช่กำลังมาแรง หากจัดช้ากว่านี้กระแสอาจสู้จัดช่วงนี้ไม่ได้” พี่โอมตอบพี่เบียร์ด้วยสีหน้าปกติ
“แล้วเรื่องน้องปอร์เช่จะทำอย่างไร! ทำไมทางค่ายถึงห่วงแต่เรื่องกระแสล่ะ แบบนี้มันไม่ยุติธรรมกับน้องเลยนะ?” พี่เบียร์ถามด้วยสีหน้าที่ไม่พอใจ
“พี่ต่อรองกับผู้ใหญ่ให้แล้ว ว่าถึงแม้น้องปอร์เช่จะยังไม่ได้ปล่อยเพลงออกไปก่อน แต่ทางค่ายก็ไม่มีสิทธิ์ที่จะตัดสิทธิ์น้องเขา และถ้าติดต่อน้องปอร์เช่ได้ก็จะรีบเรียกมาอัดเพลงและปล่อยโปรโมตทันที” พี่โอมอธิบายเพิ่ม
“แต่รอบการแสดงสดมันต้องให้ผู้เข้าประกวดแต่ละคน ร้องเพลงร่วมกับศิลปินระดับโลกที่เลือกมาให้อย่างเหมาะสม ถ้าน้องปอร์เช่ยังไม่มีเพลงมาก่อน ศิลปินที่เลือกให้จะร้องคู่กันในรอบนี้ได้อย่างไร?” พี่เบียร์พูดถึงปัญหาในรอบสุดท้าย
ปกติการประกวดในรอบสุดท้ายนี้ ผู้เข้ารอบทั้งสิบคนนี้ จะปล่อยเพลงที่ตัวเองแต่งออกมาก่อนเพื่อโปรโมตและสะสมคะแนน หลังจากที่ปล่อยเพลงออกมาแล้ว ทางค่ายจะติดต่อศิลปินระดับโลกตามที่ผู้เข้าประกวดต้องการหรือดูตามความเหมาะสมเพื่อยกระดับของรายการและโปรโมตให้คนทั่วโลกรู้จัก
ซึ่งขั้นตอนที่ว่าตามแผนเดิมจะต้องใช้เวลาเกือบหกเดือนกว่าจะถึงรอบการแสดงสด แต่ทางค่ายเพลงก็ปรับให้มีรอบการแสดงสดเร็วขึ้น และชดเชยกำหนดการณ์เดิม ด้วยการแสดงคอนเสิร์ตอย่างเต็มรูปแบบของผู้ชนะแทน
"ตอนนี้ทำสิ่งที่พวกเราทำได้ไปก่อน ก็หวังว่าน้องปอร์เช่จะติดต่อกลับมาทัน ช่วงจะโปรโมตเพลงและหาศิลปิน" พี่โอมพูดเสริม
"ผมจะพยายามทำทั้งอย่างให้เต็มที่ครับ พวกเราเป็นคนดึงน้องเข้ามาก็ต้องรับผิดชอบอนาคตน้องเช่นกัน" พี่เบียร์ตอบกลับพี่โอม ก่อนเรียกทีมงานวางแผนต่อไป
............................