หลังจากการแสดงชุดแรกผ่านไป ตอนนี้การแสดงของผู้เข้าประกวดก็ผ่านไปแล้วถึงเจ็ดคน ซึ่งบรรดาศิลปินระดับโลกก็แสดงการแสดงได้สมกับมาตรฐาน ไม่ว่าจะเป็น “กวางรุ้ง” จากเวียดนาม, “เติ้น จินหง” จากจีน, แอ๊ดดี้ ชีรอน, เทลเวอร์ สลีป รวมถึงศิลปินจากจาไมก้าและอินเดีย
ตอนนี้เหลือศิลปินระดับโลกอีกสองคนก็คือ.......
“เลดี้ กีกี้” ที่จะแสดงคู่กับ “พรหล้า” ผู้เข้าประกวดคนที่แปด
“จัสติค บีเวอร์” ที่จะแสดงคู่กับยัยหลิน ซึ่งเป็นผู้เข้าประกวดคนที่เก้า
และฉันที่ทำการแสดงเพียงคนเดียว โดยไม่มีศิลปินระดับโลกเป็นคนสุดท้าย
การแสดงของ "เติ้น จินหง" ได้กลายเป็นหัวข้อในการพูดถึงมากที่สุดในตอนนี้ เพราะในการร้องเพลงคู่กับผู้เข้าประกวดคนที่ห้า เสียงของ”เติ้ล จินหง” กลับเพราะกว่าเสียงผู้เข้าประกวดมากเกินไป
“น่าเสียดาย! เด็กคนนี้เสียงดีมาก แต่พอมาแสดงคู่กับ “เติ้น จินหง” กลับกลายเป็นด้อยไปเลย!” นักร้องโอเปร่าสาวคนหนึ่งทีเป็นกรรมการพูดขึ้นหลังชมการแสดง
แม้การแสดงคู่ศิลปินระดับโลกจะเป็นข้อดีในการเรียกคะแนนโหวตและก้าวสู่ชื่อเสียง แต่หากพลาดเพียงเล็กน้อยก็อาจกลายเป็นข้อเปรียบเทียบ จนได้คะแนนน้อยอย่างน่าใจหาย
“แอ๊ดดี้ ชีรอนกับเทลเวอร์ สลีป เป็นศิลปินมืออาชีพมาก ทั้งสองเลือกที่จะไม่โชว์พลังเสียงในท่อนที่ร้องคู่กัน แต่กลับช่วยร้องผสานเสียงให้ผู้เข้าประกวด” พี่โอมพูดขึ้นหลังชมการแสดงของทั้งสองคน ที่ช่วยผู้เข้าประกวดให้เด่นขึ้น โดยไม่ได้สนใจระดับชื่อเสียงของตัวเอง
บางทีการจับคู่กับศิลปินที่ดี ก็เป็นการช่วยส่งเสริมคะแนนได้ดีเช่นกัน
การประกวดครั้งนี้ จึงไม่เกี่ยวว่าคุณจะเก่งแค่ไหนหรือมีศิลปินระดับโลกที่ดังขนาดไหนมาแสดงร่วมในคืนนี้ เพราะชีวิต...บางทีก็ขึ้นอยู่กับดวงด้วยเช่นกัน
ตอนนี้ถึงการแสดงของผู้เข้าประกวดคนที่แปดที่ถือเป็นตัวเก็งคนหนึ่ง
“พรหล้า” สาวน้อยหน้าใสกับ “เลดี้ กีกี้”
“เลดี้ กีกี้” ปรากฏตัวขึ้นในชุดของผีตาโขน ที่มีสีสันแสบตาพร้อมเพลงดังของเธอและการแสดงที่ดึงดูดสายตาของผู้ชมทั่วทั้งสนาม
และเมื่อการแสดงเพลงของตัวเองจบ “เลดี้ กีกี้” ก็เชิญผู้เข้าประกวดมาร้องเพลงร่วมกัน
“พรหล้า” มาในชุดสีเงินแนวอวกาศ เธอสวมแว่นสีดำอันใหญ่ เหมือนแว่นสกีที่ “เจ้ไผ” เชฟชื่อดังของเมืองไทยใช้ตอนทอดไข่เจียวปูเค็ม
“พรหล้า” ร้องและเต้นได้ดีไม่แพ้ “เลดี้ กีกี้” ทั้งคู่แสดงได้เข้าขากันเป็นอย่างดีและไม่แย่งซีนเด่นซึ่งกันและกัน ราวกับซ้อมกันมานาน
“นี่เป็นการแสดงที่เข้าขากันเป็นอย่างดี! เด็กคนนี้แสดงสดได้ดีที่สุด ตั้งแต่เริ่มงานคืนนี้” เทรนติน ทายากันโน่ ผู้กำกับชื่อดังจากฮอลลี่วูด หนึ่งในกรรมการกล่าวชม
ขณะที่กรรมการท่านอื่นๆก็เห็นด้วยและกำลังจะให้คะแนน
“พรหล้า” ที่ยืนเต้นอยู่ข้างๆ “เลดี้ กีกี้” ก็พลาดเหยียบชุดของเลดี้ กีกี้ จนศิลปินสาวหกล้มหัวคะมำและตัวเองก็เสียหลักล้มลงเช่นกัน
เลดี้ กีกี้! ล้มลงแบบจับกบหมดภาพลักษณ์ศิลปินสาวระดับโลก แต่ด้วยสปิริตทำให้เธอกลับมาแสดงต่อเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น
ส่วน พรหล้า! ผู้เข้าประกวดคนที่แปด นั่งอยู่ที่พื้นเพราะลุกไม่ขึ้น และไม่สามารถร้องต่อได้เพราะขาแพลง
เป็น "เลดี้ กีกี้" ที่ร้องต่อให้จนจบเพลงและช่วยพยุงให้ "พรหล้า" ลุกขึ้นยืนในตอนสุดท้าย
“น่าเสียดาย! ที่เด็กคนนี้โชคไม่ดี” เอลตัน เจมส์ นักร้องเพลงป๊อบชื่อดัง หนึ่งในกรรมการพูดขึ้นเมื่อเห็นการแสดงตอนจบ
“พรหล้า” ให้สัมภาษณ์กับพิธีกรทั้งสองเพราะไม่สามารถร้องเพลงของตัวเองต่อไปได้ จึงลงเวทีไปอย่างน่าเสียดาย
และแล้วก็ถึงคิวการแสดงของ “ยัยหลิน” กับ “จัสติค บีเวอร์”
“จัสติค บีเวอร์” เริ่มการแสดงโชว์ของเขาก่อนกับเพลง "BARBY" เพลงดังในปีนี้ ที่ติดชาร์ตอันดับหนึ่งทั่วโลก สร้างเสียงกรี๊ดและโห่ร้องลั่นสนามกีฬา เพราะตอนนี้เขาคือศิลปินที่ได้รับความนิยมอันดับหนึ่งของโลก
“ซาหวาดดด...ดี.....ทุกโคนนนนนนน!” จัสติค บีเวอร์! ทักทายทุกคนด้วยเสียงที่อ้อแอ้! ลิ้นพันกัน!
เขาเดินออกมาเหมือนคนเมาและพยายามร้องเพลงให้ตรงกับดนตรี เพราะตอนนี้เขากลายเป็นนักร้องนำ ที่นำหน้าจังหวะของนักดนตรีไปเรียบร้อย
“เฮ้ย! ทำไมจัสติค บีเวอร์ ถึงออกมาในสภาพนี้นะ?” กรรมการคนหนึ่ง อุทานขึ้นเมื่อเห็นสภาพของเขา
ตอนนี้เสียงของผู้ชมเงียบสงัด ปล่อยให้“จัสติค บีเวอร์” ร้องไปจนจบเพลง
“ต่อปายยยย! เชิญพบบบบบบ กับบบบบ น้องงง หลินนนนน!” จัสติค บีเวอร์ เชิญยัยหลินมาร้องเพลงร่วมกันบนเวที
ยัยหลินปรากฎตัวด้วยชุดสีขาว เซ็กซี่ ที่ปักด้วยมุกและเลื่อมสีเงิน เดินลงมาและเริ่มร้องเพลง ด้วยสีหน้าที่ไม่สู้ดีนัก
เสียงที่ไม่ได้รับเชิญดังขึ้น ก่อนที่ยัยหลินจะอ้าปากร้องโน้ตตัวแรก
“เมื่อกี้! เสียงอะไรดังขึ้นมาน่ะ” เหล่าผู้ชมกำลังซุบซิบ ถึงเสียงลึกลับเมื่อครู่
ยัยหลินร้องเพลงออกมา พร้อมค่อยๆเดินมาที่กลางเวทีเพื่อยืนคู่กับจัสติค บีเวอร์ ที่กำลังยืนไม่ไหวและทำท่าจะล้มอยู่ตลอดเวลา
ในขณะที่กำลังยืนคู่กัน ยัยหลินก็ร้องเพลงต่อพร้อมด้วยเสียงเอฟเฟคที่แปลกประหลาดที่แทรกมาเป็นระยะ
“เสียงใครตดใส่ลำโพง!” ผู้ชมเริ่มโวยวาย เมื่อเริ่มคุ้นชินกับเสียงลึกลับที่ดังขึ้น
ยัยหลินไม่สนใจเสียงนั้นและร้องเพลงต่อ ใบหน้ามีเหงื่อเม็ดเล็กๆปรากฏขึ้น เมื่อถึงท่อนที่ต้องเต้นครั้งนี้ยัยหลินกลับยืนนิ่งไม่ยอมเต้นเหมือนเคย ส่วนจัสติค บีเวอร์ ที่ยืนอยู่บนเวทีและทำท่าจะล้ม ก็กอดคอยัยหลินที่ตอนนี้เหงื่อออกมากขึ้นและยืนนิ่งเป็นท่อนไม้
“ขอยืมตัวหน่อย ไอกำลังจะล้ม เอ๊ะ! นี่มันกลิ่นตดนี่! ยูปวดท้องหรือ! ไปเข้าห้องน้ำไหม?” จัสติค บีเวอร์ ได้กลิ่นแปลกๆจากยัยหลิน จึงพูดออกไปด้วยความเมา แต่เสียงพูดนั้นดังเข้ามาในไมโครโฟน
“ไอ้บ้า!!!!!! ” ยัยหลินไม่ยอมร้องต่อ แต่หันมาต่อว่าจัสติค บีเวอร์ ด้วยใบหน้าที่แดงกล่ำและผลักตัวจัสติค บีเวอร์ออกไปจนศิลปินหนุ่มล้มลงไปทางด้านหลัง
ขณะที่ล้มลงด้านหลัง จัสติค บีเวอร์ ก็พยายามลุกขึ้นโดยพยายามใช้มือที่จับไมค์ ชูขึ้นที่ด้านหลังยัยหลิน เพื่อส่งสัญญาณให้ดึงขึ้นไปหน่อย
เสียงปริศนาที่ได้ยินในตอนแรก ก็ดังจากด้านหลังของยัยหลิน อย่างชัดเจนทั่วสนามกีฬา!!!!
ปู๊ดดดด! ปู๊ดดดด! ปี๋!!!!!
...........................................................