“เดี๋ยว! ก่อนไปภารกิจที่ว่า ขอถามหน่อยว่าไอ้เจ้าบทร่ายมนต์นี่ทำไม่มันถึงเป็นสโลแกนของสบู่เบนเนทไปได้” ฉันเริ่มสงสัยหลังตั้งสติได้
“มันขึ้นอยู่กับของที่เจ้าเอามาทำพันธสัญญา” พี่สาวซาตี้ตอบแบบหน้าตาย
“แต่บทร่ายมันดูธรรมดาไปไหม? เหมือนไม่ได้คิดเลยนะ ดูไม่ค่อยขลังเลย” ฉันยังสงสัยต่อ
“มันอยู่ที่เจ้าตั้งจิตน่ะ บทร่ายเป็นเพียงตัวช่วยให้เจ้าระลึกถึงสิ่งที่เจ้าตั้งใจเท่านั้น ไม่อย่างนั้น!สมัยก่อนทหารในยุคสงคราม คนที่ไม่มีเครื่องราง เอาแค่เศษผ้าถุงแม่ติดตัวไปจะรอดตายรึ”
“โห! แค่คิดตั้งจิตก็หนังเหนียว ยิงไม่เข้าเลยหรือนี่?”
“เปล่า!...เค้าอยู่ฝ่ายวงดุริยางค์น่ะ” พี่สาวซาตี้ตอบกลับแบบเสียงอ่อยๆ
“อะแฮ่ม! เอาล่ะมาเริ่มข้อสุดท้ายกัน ข้อนี้ข้าจะเป็นคนเลือกจากความทรงจำของเจ้าเอง ภารกิจที่จะให้เจ้าต้องเป็นภารกิจที่เกี่ยวข้องกับเรื่องที่เจ้าจำได้ไม่ลืมหรือประทับใจเท่านั้น พร้อมนะ!”
“โห! อย่ายากมากนะพี่สาวซาตี้ ฉันยังเป็นแค่เด็กนักเรียนเองนะ”
“ไม่ต้องห่วง ข้าเชื่อว่าเจ้าทำได้ เอาล่ะมาเริ่มกันเลย!”
พี่สาวซาตี้ขยับตัวมาใกล้ๆ แล้วใช้มือขวาแตะมาที่หัวของฉัน ราวกับกำลังค้นความทรงจำเพื่อมาทำภารกิจ
“อ๊ะ!....อู้ว!.....ฮ่าๆๆ!......ฮือๆๆ!” เสียงพี่สาวซาตี้อุทานหลายรูปแบบ
เดี๋ยวนะ! นี่ดูอะไรอยู่นี่ อุทานจนฉันสงสัยเหมือนกันว่าในความทรงจำของฉันนี่มันมีอะไรบ้าง?
ผ่านไปสักระยะ พี่สาวซาตี้ก็ลืมตาขึ้นแล้วเอามือกลับไป
“เอาล่ะข้าขอมอบภารกิจหนึ่งให้เจ้าทำ มันเป็นภารกิจเกี่ยวเรื่องราวของกลิ่นอาฮวน!”
“กลิ่นอาฮวน!.....” ฉันตกใจจนต้องอ้าปากค้าง
เรื่องของกลิ่นดอกอาฮวน เป็นเรื่องเล่าที่ยายของฉันเคยเล่าให้ฟังตั้งแต่เด็กและฉันก็ชอบมันมากจริงๆ
..................................
สมัยก่อนแถวหมู่บ้านที่ฉันอยู่นั้นมีแต่ป่า
ส่วนหนึ่งในชีวิตของชาวบ้านก็คือ การเก็บของป่า ล่าสัตว์ ตัดไม้และบ่อยครั้งก็ต้องเดินทางผ่านป่าเนื่องจากถนนที่เชื่อมกับเมืองยังไม่มี
ด้วยความที่ชาวบ้านผูกพันกับป่า จึงมีนิทานและเรื่องเล่ามากมายเกี่ยวกับป่าที่เล่าสืบทอดสู่กันมา หนึ่งในนั้นก็คือเรื่องราวของต้นอาฮวน
ยายเล่าว่าในป่ามีต้นไม้ชนิดหนึ่งที่ชื่อว่าต้นอาฮวน ซึ่งผู้คนที่เดินป่าส่วนใหญ่จะรู้จักดี ต้นอาฮวนนี้มีความพิเศษก็คือ......ตัวดอกที่ส่งกลิ่นหอมรัญจวน
ชาวบ้าน....มีความเชื่อว่า เมื่อได้กลิ่นของดอกอาฮวนแล้ว จะทำให้ผู้คนเดินทางอยู่ในป่า คิดถึงคนรัก...ที่รออยู่เบื้องหลัง
และจะเดินทางกลับบ้านอย่างปลอดภัยทุกครั้ง
ตั้งแต่ครั้งแรกที่ฟัง ฉันก็รู้สึกว่าเรื่องนี้มันโรแมนติกมากและจำเรื่องนี้ไว้ในความทรงจำตลอดมา
..........................
“นี่!...ยัยหนู! ข้ายังพูดไม่จบเลย เข้าภวังค์ซะอย่างนั้น” เสียงพี่สาวซาตี้ดังขึ้นเรียกสติของฉันกลับมา
“อ๊ะ!...พี่สาวซาตี้ พี่สาวไม่ใช่มิจฉาชีพจริงๆ ด้วย เรื่องนี้ฉันไม่เคยเล่าเรื่องนี้ให้ใครฟังเลยนะ”
“ข้าว่า....เจ้าควรเชื่อตั้งแต่ที่รูปลักษณ์เจ้าเปลี่ยนไปแล้วนะ” พี่สาวซาตี้พูดพลางกุมขมับตัวเอง
“เออ!...นั่นสิ ฉันลืมไปเลย แฮะๆ! ” ฉันหัวเราะแบบแห้งๆ แก้เขิน
“เอาล่ะ! เข้าเรื่องของเราดีกว่า ข้าจะได้กลับสักที”
“ภารกิจของเจ้าก็คือ ภายใน 3 ปีนี้ เจ้าต้องทำให้ใครสักคนกลับมาหาเจ้าเพราะกลิ่นของอาฮวนให้ได้ หากเจ้าทำไม่ได้! ภายในวันสุดท้ายของชีวิตนักเรียนมัธยมปลาย เจ้าจะต้องกลับสู่ร่างเดิม!”
“และที่สำคัญ! ห้ามเจ้าเล่าเรื่องที่เราทำพันธสัญญาและภารกิจนี้ให้คนอื่นฟัง ไม่อย่างนั้นก็จะถือว่าผิดสัญญา กลับคืนสู่ร่างเดิมเช่นกัน”
“หา!.......ทำไมถึงได้ฟังดูโหดร้ายขนาดนี้ มีรายละเอียดอื่นเพิ่มเติมอีกมั้ย” ฉันเริ่มตกใจในภารกิจ
“นี่ยัยหนู! เรื่องบางเรื่องหากเจ้าเลือกแล้วมันย้อนกลับไปไม่ได้ และภารกิจที่บอกเจ้าต้องตีความและหาวิธีเอาเอง แต่เห็นว่าเจ้ายังเด็กอยู่ ถ้าสงสัยอะไรโทรหาข้าได้ที่เบอร์ 066-xxxxxxx แต่เจ้าจะโทรหาได้เพียง 3 ครั้งเท่านั้น หวังว่าเจ้าจะโชคดี”
ตรู๊ดดด!.....ตรู๊ดดด!.....
“ฮัลโล! นี่สาวน้อยซาตี้พูด นั่นใครเอ่ย?” พี่สาวซาตี้หยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาหลังมีเสียงเรียกเข้า
“พี่สาวซาตี้ ฉันเองปอเทืองไง โทรมาเช็คว่าเบอร์ถูกต้องไหม” ฉันก้มตัวเบาๆ แล้วชี้ที่โทรศัพท์มือถือของตัวเอง
“ถูกต้องจ้า....งั้นตอนนี้เหลือแค่ 2 ครั้งนะจ๊ะ” พี่สาวซาตี้กดวางสายแล้วเก็บโทรศัพท์
“หา!......”
“เมื่อกี้แค่ลองกดดูว่าโทรได้จริงมั้ย! ไม่นับไม่ได้เหรอ?” ฉันเริ่มอ้อนวอน แล้วยกมือไหว้หงึกๆ
“ไม่ได้! สัญญาต้องเป็นสัญญา จำไว้นะเจ้ามีเวลาแค่ 3 ปีและโทรหาข้าได้อีก 2 ครั้งเท่านั้น! ขอให้เจ้าโชคดี” พี่สาวซาตีพูดด้วยสีหน้าจริงจัง
ทันใดนั้น! ร่างพี่สาวซาตี้ก็หายไปพร้อมรถมอเตอร์ไซค์คู่ใจ และบรรยากาศรอบๆก็ดูเหมือนจะหมุนไวขึ้นและกลับสู่สภาพเดิม
“เฮ้อ! นี่ฉันไม่ได้ฝันไปใช่มั้ยนี่?” ฉันหยิกตัวเองอีกครั้ง ก่อนหยิบกระจกขึ้นมาส่องหน้าตัวเองอย่างช้าๆ
“เฮ้ย! ยังสวยเหมือนเดิม หยิกก็เจ็บแถมยังสวยเหมือนเมื่อกี้เลย เย้! ฉันไม่ได้ฝันไปมันเป็นเรื่องจริง!...,มันเป็นเรื่องจริง!”
ฉันกระโดดโลดเต้นอีกครั้ง จนชาวบ้านแถวนั้นหันมามองซึ่งฉันไม่ได้สนใจ และเดินกลับบ้านอย่างสบายอารมณ์
ท้องฟ้าสีคราม.......
กลิ่นดอกไม้และต้นไม้ช่วงฤดูร้อนที่หอมอ่อนๆ
โอ้ว!...ถนนที่ดูสงบพร้อมเสียงนกร้อง
แหม! วันนี้ทางกลับบ้านเดิมๆถึงได้ดูสวยขึ้นขนาดนี้นะ หรือว่าแค่คนสวยอย่างฉันมาเดินมันก็เลยสวยขึ้นตาม
อุ๊ย! จริงหรือนี่! บ้า...เรื่องจริงแบบนี้ปฎิเสธไม่ลงเลย
จนกระทั่งเมื่อถึงบ้าน ฉันก็ลืมนึกไปเรื่องหนึ่ง
ตายแล้ว!....แม่กับยายจะจำฉันได้หรือนี่?
ถ้าจำไม่ได้แล้วเจอฉันอยู่ในบ้านต้องหาว่าฉันเป็นขโมยแน่ๆ หรือจะบอกว่าตอนเดินกลับแวะไปทำศัลยกรรมมา ไม่!....แค่วันเดียวหมอที่ไหนจะทำได้
หรือบอกเรื่องจริงไปดี ไม่ๆ!...ขืนบอกไปคงหาว่าฉันบ้านแถมผิดพันธสัญญาอีก
เอายังไงดี! เอายังไงดี! ฉันเดินวนเวียนอยู่หน้าบ้านตัดสินใจไม่ถูกว่าจะทำอย่างไรดี
จนกระทั่ง!
“มาทำอะไรอยู่หน้าบ้านนี้น่ะ!” เสียงคุ้นหูดังขึ้น
“ยาย!..............” ฉันตกใจจนกระเป๋านักเรียนหล่น เมื่อเห็นว่าคนที่ทักคือยายของฉันเอง
.................................................