ย้อนอดีต ตามหา...แม่ของลูก
ตอนที่ 50 พบแฟนเก่า
ตอนนี้ผมย้อนเวลามาในช่วงเริ่มทำงานที่สวนส้มแห่งเดิม
 
ซึ่งเป็นช่วงที่เลิกรากับ “ขมิ้น” แฟนคนที่สองแล้วและจำได้ว่าอีกไม่นานน้ำหวานก็จะมาสมัครงานที่เดียวกัน
 
ในที่สุด...วันแห่งการได้พบกัน ก็มาถึงอีกครั้ง!
 
“ธีย์! นายมาทำงานที่นี่ด้วยเหรอ บังเอิญจริงๆเลย” น้ำหวานดีใจที่เห็นผม
 
“ใช่! บังเอิญมาก เราเพิ่งมาทำก่อนน้ำหวานได้แค่เดือนเดียวเอง” ผมตอบน้ำหวาน
 
หลังจากน้ำหวานแนะนำตัวกับพี่ๆ เสร็จ ผมก็พาน้ำหวานได้รับงานในส่วนของเธอและกลายเป็นพี่เลี้ยงไปด้วย
 
นี่คือเหตุการณ์และประโยคเดิมที่เราทักทายกันเมื่อตอนเจอกัน
 
เอาเข้าจริง ๆ ระหว่างผมกับน้ำหวาน มันมีเรื่องราวมากมายที่เกิดขึ้นก่อนที่เราจะคบกันเป็นแฟน ซึ่งผมเองก็ปล่อยให้ความสัมพันธ์ในช่วงแรก ค่อย ๆ เป็นไปในรูปแบบเดิมก่อน
 
เพื่อระลึกถึงเรื่องราวในอดีต...แต่ก็ไม่ได้เป็นแบบเดิมไปทั้งหมด!
 
เพราะการกลับมาแก้ไขอดีตในครั้งนี้ มันต้องดีกว่าเดิม!
 
หลังจากเจอกันได้ประมาณครึ่งปี ผมเริ่มชวนน้ำหวานออกกำลังกายและตรวจสุขภาพ
 
“สุขภาพดูแลตอนนี้ ดีกว่าเพิ่งมาดูแลตอนที่มันแย่นะ” ผมบอกน้ำหวานขณะที่ชวนเธอมาวิ่ง
 
“อากาศที่สวนส้มนี่สดชื่นดีนะ เราไม่เคยวิ่งนานมากแล้ว แต่พอได้วิ่งตอนเช้าที่นี่ก็รู้สึกชอบเลย” น้ำหวานทำสีหน้ามีความสุขขณะวิ่งข้าง ๆ กัน
 
นั่นเป็นเพียงเป้าหมายแรก เพราะผมรู้ว่าเธอไม่ค่อยแข็งแรงจึงเป็นลมแดดบ่อย ๆ
 
แต่เป้าหมายที่สำคัญก็คือเรื่องนี้
 
“เราเพิ่งพาพ่อกับแม่ไปตรวจสุขภาพมา โชคดีที่ไปตรวจเร็วเพราะเจออยู่หลายโรคที่ต้องระวัง น้ำหวานลองพาพ่อกับแม่ไปตรวจบ้างก็ดีนะ จะได้รู้และระวังตัวเรื่องสุขภาพมากขึ้น” ผมโน้มน้าวน้ำหวานเรื่องพาพ่อและแม่ไปตรวจสุขภาพ
 
แม้ช่วงแรกเธอจะไม่แน่ใจว่าพ่อและแม่จะยอมไปไหม แต่พอผมพูดบ่อย ๆ เข้า ในวันหยุดเทศกาลช่วงหนึ่งเธอก็พาทั้งสองคนไปตรวจสุขภาพพร้อมกับเธอ
 
“ธีย์! เราโชคดีมากเลยที่ไปตรวจตามที่ธีย์แนะนำ เพราะป๊าเรามีความเสี่ยงเป็นโรคหัวใจ หมอบอกว่าถ้ามาช้ากว่านี้อาจจะเป็นโรคหลอดเลือดหัวใจและต้องผ่าตัดใหญ่ ส่วนม้าเราก็มีโอกาสเป็นเบาหวานเพราะน้ำตาลในเลือดสูงและความดันก็สูงด้วย”
 
“ขอบคุณธีย์มากนะ ที่แนะนำเราให้พาป๊ากับม้าไปตรวจสุขภาพที่โรงพยาบาล ธีย์น่ารักมากจริงๆ อ้อ! ป๊ากับม้าบอกว่าปีใหม่นี้ถ้าธีย์ว่าง จะชวนไปเที่ยวที่บ้านด้วย เพราะอยากเห็นหน้าเพื่อนที่แนะนำสิ่งดี ๆ ให้จะได้ทำกับข้าวเลี้ยงขอบคุณ” น้ำหวานเล่าเรื่องของเอให้ผมฟัง
 
ชีวิตครั้งที่แล้วตอนที่ผมคบกับน้ำหวานผมไม่เคยใส่ใจเรื่องของเธอเลย โดยเฉพาะครอบครัวของหลังจากรู้ว่าทั้งสองคนไม่ชอบลูกเขยคนไทย
 
ที่สำคัญพ่อของน้ำหวานก็ป่วยเป็นโรคหัวใจ ในสมัยนั้นยังไม่มีบัตรทองหรือนิยมทำประกันสุขภาพ ทำให้บ้านของเธอหมดค่ารักษาไปมาก จนแทบหมดตัวเลยทีเดียว
 
แผนของผมช่วงแรกก็เลยอยากให้น้ำหวานดูแลสุขภาพตัวเองและพาพ่อกับแม่ไปตรวจสุขภาพเพื่อดูแลตัวเองก่อนจะเป็นโรคร้ายแรงในอนาคต
 
รวมถึงการเข้าไปเจอพ่อกับแม่ของน้ำหวานด้วยฐานะเพื่อนในช่วงแรก ก็ดีกว่าการเข้าไปในฐานะแฟนคนไทย ซึ่งพวกท่านทั้งสองต้องกีดกันแน่นอน
 
ถือว่าแผนการขั้นแรกของผมนั้น สำเร็จเรียบร้อยไปแล้วส่วนหนึ่ง
 
ในวันที่ผมไปเที่ยวบ้านของน้ำหวาน ผมเตรียมผลไม้ที่สวนของผมไปด้วย เพราะจำได้ว่าพ่อของเธอชอบมะม่วงที่สวนของผมมาก
 
“สวัสดีครับป๊า สวัสดีครับม้า ผมชื่อธีย์เป็นเพื่อนของน้ำหวานครับ วันนี้ผมเอาผลไม้ที่สวนมาฝากป๊ากับม้าด้วย รับรองว่าหว่าไม่มีสารเคมี ปลอดภัยแน่นอนครับ” ผมแนะนำตัวเองเสร็จสรรพ พร้อมสวัสดีด้วยท่าทีที่อ่อนน้อม ทำให้พ่อและแม่ของน้ำหวานประทับใจในตัวผมตั้งแต่ครั้งแรกที่เจอ
 
“ป๊าได้ยินเรื่องธีย์จากน้ำหวานแล้ว ขอบคุณมาก ๆ นะที่ชวนน้ำหวานออกกำลังกายและเตือนให้พาป๊ากับม้าไปตรวจสุขภาพ ป๊ากับม๊าก็เป็นคนรุ่นเก่าคิดว่าร่างกายยังแข็งแรงดี ที่ไหนได้เกือบจะกลายเป็นโรคร้ายกันซะแล้ว โชคดีจริง ๆ ที่ยังเป็นช่วงเริ่มต้นเลยไม่ต้องถึงกับผ่าตัด” พ่อของน้ำหวานพูดกับผมด้วยความใจดี
 
ถือเป็นครั้งแรกที่ผมได้คุยกับครอบครัวของน้ำหวาน เพราะชีวิตก่อนหน้านี้ ผมไม่เคยมีความกล้าที่จะเข้ามาคุยกับพวกท่านเลยจริง ๆ
 
“ป๊ากับม้าไม่ต้องห่วงเรื่องสุขภาพมากนะครับ ดูแลตัวเองตามที่คุณหมอบอกให้ดีก็พอ ตอนนี้น้องสาวของผมเรียนหมออยู่ใกล้จบแล้ว หากมีเรื่องเกี่ยวกับสุขภาพเดี๋ยวผมฝากให้น้องสาวผมช่วยดูแลได้ครับ” ผมพูดเรื่องน้องสาวเรียนหมอให้พ่อและแม่ของน้ำหวานฟัง เพื่อที่จะให้พวกท่านมองผมในทางที่ดี
 
เพราะไม่ว่าสมัยโน้นหรือสมัยนี้ อาชีพหมอก็ทำให้คนเรารู้สึกดี แม้จะเป็นแค่อาชีพของญาติพี่น้องเราก็ตาม
 
เย็นวันนั้น แม่ของน้ำหวานทำอาหารเย็นให้ผมทาน เพื่อขอบคุณเรื่องตรวจสุขภาพและถือโอกาสเลี้ยงต้อนรับที่มาเยี่ยมด้วย
 
พ่อของน้ำหวานชมมะม่วงที่สวนของผมต่อหน้าเลย ว่าหวานกรอบชื่นใจ และอร่อยกว่ามะม่วงในตลาดเสียอีก
 
ทั้งสองคนเอ็นดูผมเหมือนลูกหลานคนหนึ่งและไม่ได้มีอคติว่าผมเป็นคนไทยเหมือนที่ผมเคยคิดไว้
 
ทำให้ลึก ๆ แล้วผมก็โทษตัวเองว่าทำไมไม่ทำตัวแบบนี้ในอดีต
 
......................
 
“ธีย์! ป๊ากับม้าชมธีย์ใหญ่เลยนะ ว่าคุยเก่ง นิสัยดี และบอกว่าเราโชคดี ที่มีเพื่อนแบบธีย์ ป๊ากับม้าก็เลยไม่ห่วงที่มาทำงานไกลบ้าน” น้ำหวานบอกผมหลังจากที่พวกเรากลับมาทำงาน
 
“ป๊ากับม้าน้ำหวานก็น่ารัก ต้อนรับดีซะจนเราน้ำหนักขึ้นเลย” ผมทำท่าลูบพุงน้อย ๆ โชว์เธอ
 
“อาหารที่ม้าเราทำอร่อยใช่ไหมล่ะ อันที่จริงเราไม่ค่อยพาเพื่อนผู้ชายไปเที่ยวที่บ้านหรอก แต่ธีย์เป็นเพื่อนผู้ชายคนแรกนะ ที่ป๊ากับม้าของเราชมขนาดนี้ แถมยังฝากมาบอกอีกด้วยว่า ว่างเมื่อไหร่ก็ไปเที่ยวได้ตลอด ม้าจะทำกับข้าวเตรียมไว้ต้อนรับ” น้ำหวานพูดด้วยสีหน้าที่มีความสุข
 
ตอนนี้แผนของผมในช่วงแรกตอนนี้ได้สำเร็จแล้ว
 
ทั้งเรื่องสุขภาพของน้ำหวานและครอบครัวรวมถึงการไปทำความรู้จักกับครอบครัวของเธอเพื่อสร้างความสนิทสนม
 
หลังจากนี้ก็เป็นขั้นต่อไป ที่ผมเองก็ต้องเริ่มศึกษาเพิ่ม เพื่อที่จะได้ไปคุยกับครอบครัวของน้ำหวานอีก โดยใช้ความทรงจำและความรู้จากอดีตครั้งที่แล้ว
 
ซึ่งผมจะใช้โอกาสครั้งนี้  แก้ไขชีวิตของตัวเองและน้ำหวานให้ดีขึ้นมากกว่าเดิม
 
รอก่อนนะน้องมีน...พ่อจะทำให้สำเร็จ!
 
...............................
ตอนต่อไป
ตอนที่ 51 เรื่องเก่าแต่เล่าใหม่