ความรัก...ชั่วพริบตา
ตอนที่ 16 รวมทีมผู้นำทาง...โปรเจคลับ
เวลาก็ผ่านไปจนถึงช่วงบ่าย
 
ตอนนี้ผลการทดสอบรอบแรกของหมอดูที่เชิญมา ได้จบลงแล้ว!
 
ทีมงานได้รวบรวมผลและรายงานต่อผู้กององอาจ...ผู้รับผิดชอบโปรเจคนี้
 
“รายงานผลการทดสอบจากผู้ที่เราเชิญมาครับ!” ทีมงานยื่นเอกสารให้ผู้กององอาจ
 
“คุณบอกมาได้เลยผมขี้เกียจอ่าน วันนี้ผมปวดหัวหลายเรื่องแล้ว” ผู้กององอาจพูดกับทีมงาน หลังจากที่เขาโดนท่านรองวัลลภ โทรถามผลการทดสอบทุก ๆ สิบนาทีรวมกับความเรื่องมากของหมอดูที่เชิญมา ทำให้ตั้งแต่เช้าเขาแทบจะไม่ได้พัก
 
“ได้ครับ!” ทีมงานรับทราบและหยิบเอกสารของตัวเองออกมาอีกหนึ่งชุด เพื่อรายงาน
 
“ผลการทดสอบจากผู้เข้าร่วมทั้งหมดหนึ่งร้อยคน!”
 
“มีผู้ที่ตอบไม่ถูกเลยแม้แต่ข้อเดียวเป็นจำนวนแปดสิบคน”
 
“นี่ขนาดคัดเลือกเอาหมอดูที่มีชื่อเสียงมาแล้วนะ ยังทำนายไม่ถูกแม้แต่ข้อเดียวมากขนาดนี้เลยหรือนี่” ผู้กององอาจคิดถึงหน้าของหมอดูส่วนใหญ่ที่คนรู้จัก พลางแอบสงสารคนที่เชื่อถือ
 
“มีผู้ตอบถูกแต่ไม่ถึงเกณฑ์สิบห้าคนและมีผู้ที่ผ่านเข้ารอบทั้งหมด..........จำนวนห้าคนครับ”
 
“และในห้าคนนี้ มีสองคนที่ตอบถูกทุกข้อหรือคิดเป็น 100% ครับ”
 
“อะไรนะ! ตอบถูกทุกข้อ!” ทุกคนที่นั่งอยู่ในห้องประชุมรวมถึงผู้กององอาจเองต่างก็ตกใจ เมื่อได้ยินผลการทดสอบ
 
“นี่มันดีกว่าที่คิดไว้เสียอีก แถมมีหมอดูตอบถูกทุกข้อถึงสองคน ไปบอกให้หมอดูที่ไม่ผ่านเกณฑ์กลับบ้านได้ ส่วนห้าคนนั้นให้พักทานข้าว แล้วทดสอบรอบที่สองอีกครั้งในช่วงบ่ายนี้” ผู้กององอาจออกคำสั่ง พลางยิ้มด้วยความดีใจ
 
“นึกไม่ถึงว่าที่เมืองไทยก็มีหมอดูที่ผ่านเกณฑ์ถึงห้าคน แถมมีสองคนที่ทำนายถูกทุกข้อด้วย อยากรู้จริง ๆ ว่ารอบสองนี้จะมีคนผ่านการทดสอบกี่คน”
 
............................
 
หลังจากที่ฉันทำการทดสอบรอบแรกเสร็จก็มานั่งรออยู่ในห้องประชุมที่เต็มไปด้วยหมอดูมากมายที่คุ้นตา แม้คนเหล่านี้จะแต่งตัวแปลก แต่ก็เป็นเพื่อนร่วมอาชีพเดียวกัน
 
หมอดูชื่อดังที่คุ้นหน้าคุ้นตา ต่างพาเหรดมาร่วมการทดสอบแทบทุกคน แต่ละคนนั่งเก๊กท่ารอฟังผล ราวกับว่าตัวเองต้องได้เข้ารอบแน่ ๆ
 
“ดูหมอม้าสิ! นั่งเก๊กไม่ยอมคุยกับใคร สงสัยจะมั่นใจมากว่าได้เข้ารอบแน่ ๆ” เสียงซุบซิบนินทาจากด้านหลังดังขึ้น
 
“ก็ยังดีกว่า ท่านเทพราตรีที่นั่งตรงนั้น ขานั้นโคตรขี้คุยเลย ตั้งแต่ตอนมาจนถึงตอนนี้ โม้ไม่ยอมหยุด”
 
“พวกแกไม่รู้อะไรซะแล้ว! สองคนนี้ยังดี พวกแกต้องไปเจอกับโหรตาทิพย์ ที่ชอบอ้างว่าตัวเองเป็นหมอดูอันดับหนึ่ง ขานั้นดูถูกหมอดูทุกคนว่าเป็นพวกหลอกลวง จนเกือบโดนคนอื่น ๆ รุมประชาทัณฑ์แล้ว โชคดีที่เจ้าหน้าที่มาห้ามไว้ทัน”
 
ฉันทั่งฟังเสียงซุบซิบนินทาแล้วก็สนุกดี พวกหมอดูก็เหมือนกับคนทั่วไป พอว่างก็นั่งจับกลุ่มนินทาคนอื่นเหมือนกัน
 
โชคดีที่วันนี้ฉันแต่งตัวธรรมดาและใส่หมวกพร้อมสวมแมสก์ปิดปาก เลยไม่มีใครรู้ว่าฉันเป็นใคร
 
แต่เอาเข้าจริง ๆ ต่อให้เปิดเผยหน้า ผู้คนก็ไม่รู้อยู่ดีว่าฉันคือ “หมอดูออนไลน์ แม่หมอทับทิมสยาม”
 
.........................
 
พวกเรานั่งรออยู่ในห้องประชุมอยู่นาน เจ้าหน้าที่ก็ออกมาประกาศหมายเลขผู้ที่เข้ารอบ โดยไม่ประกาศเป็นชื่อ ส่วนผู้ที่ไม่ผ่านการทดสอบก็กลับบ้านตามระเบียบ
 
“ผู้ที่ผ่านการทดสอบได้แก่หมายเลข 6, 15, 77, 80 และ 99 ขอเชิญผู้ที่ผ่านการทดสอบ มาที่ห้องประชุมเล็ก ส่วนท่านอื่นทางหน่วยของเราต้องขอขอบคุณที่ให้ความร่วมมือและเรียนเชิญที่โรงอาหารเพื่อรับประทนอาหารครับ” เจ้าหน้าที่ประกาศผลเสร็จก็เดินหายไป ท่ามกลางเสียงเซ็งแซ่ภายในห้องประชุม
 
“ห้าคนนี้เป็นใคร! ทำไม่ไม่ประกาศชื่อไปเลยจะได้รู้ว่าใครเข้ารอบ” ผู้ตกรอบคนหนึ่งพูดขึ้น เพราะการทดสอบจะไม่มีการติดหมายเลขแต่จะให้เป็นบัตรเล็ก ๆ แทน จึงไม่มีใครรู้หมายเลข
 
“ก็ลองดูจากทิศทางที่เดินก็ได้ ถ้าออกจากห้องนี้ไปแล้วใครเลี้ยวซ้ายก็คือเข้ารอบ ส่วนเลี้ยวขวาก็ไปโรงอาหารกินข้าว ” ผู้ตกรอบคนหนึ่งเสนอความคิด
 
เมื่อทั้งหมดคุยกันสักครู่ ทุกคนก็เริ่มแยกย้าย แต่ผู้คนที่สนใจว่าใครเข้ารอบน่าจะมีอยู่มาก จึงมีคนกลุ่มใหญ่คอยจับจ้องคนที่ออกจากประตูแล้วเลี้ยวซ้าย
 
แต่แล้วพวกเขาก็ผิดหวัง....เมื่อพบว่าคนที่เลี้ยวซ้ายมีมากกว่าห้าคน
 
“เฮ้ย! ทำไมคนเลี้ยวซ้ายถึงมีคนเยอะขนาดนี้?”
 
“ท่าทางคงมีหมอดูที่กลัวเสียหน้า แล้วยอมเดินอ้อมน่ะ จะได้ไม่มีใครรู้ว่าตกรอบ”
 
“เฮ้อ! หน้าใหญ่กันทั้งนั้น เล่นวางมาดและคุยอวดกันไปตั้งเยอะ เรื่องรักษาหน้าตานี่ยอมกันไม่ได้จริงๆ เสียเวลารอดู ไปกินข้าวกันดีกว่า ไหน ๆ ก็ตกรอบแล้ว!”
 
...............
 
หลังจากฉันเดินไปที่ห้องประชุมเล็กของผู้เข้ารอบ เจ้าหน้าที่ก็จัดให้ผู้ที่เข้ารอบแยกกัน ก่อนให้พักทานข้าวและเริ่มการทดสอบต่อทันที
 
ในรอบแรกเจ้าหน้าที่ให้ทำนายเรื่องราวของคนๆ หนึ่ง ในสิบหัวข้อให้ถูกต้อง ซึ่งฉันก็ทำนายไปตามที่ดวงดาวบอก
 
แต่รอบสองนี้ เป็นการทายว่าคนสิบคนว่าใครเป็นคนร้ายในคดีลักทรัพย์!
 
หลังจากฉันเรียกดวงดาวของแต่ละคนมาสอบถามแล้ว ก็ตอบไปว่าเป็นเด็กวัยรุ่นชายคนหนึ่งในสิบคน การทดสอบก็จบลงและรอฟังผล
 
..................
 
“ท่านรองครับ นี่คือรายชื่อและประวัติของหมอดูที่ผ่านการทดสอบทั้งสองรอบครับ” ผู้กององอาจยื่นรายงานให้ท่านรองวัลลภ
 
“จากห้าคน! ผ่านการทดสอบสามคน ผู้กองแน่ใจนะว่าสามคนนี้สามารถใช้งานได้จริง” ท่านรองวัลลภถามขึ้นขณะที่นั่งอ่านรายงาน
 
“มั่นใจครับ! สามคนนี้แหละที่จะมาร่วมทีมสืบสวนของเรา”
 
“แล้วคุณจะให้ทั้งสามคน เริ่มงานเมื่อไหร่?” ท่านรองถามต่อ
 
“พรุ่งนี้ครับ!” ผู้กององอาจตอบด้วยความมั่นใจ
 
.................................
 
อีกมุมหนึ่งของกรุงเทพ ในช่วงบ่าย  ขณะที่การทดสอบดำเนินจบแล้ว
 
เด็กสาววัยรุ่นคนหนึ่งที่เพิ่งออกจากร้านสะดวกซื้อแห่งหนึ่ง ก็กำลังเดินกลับบ้านหลังซื้อของเสร็จ
 
ระหว่างที่กำลังเดินอยู่บนทางเท้า จู่ ๆ เธอก็รู้สึกหน้ามืดและหมดสติจนล้มลง
 
โชคดีที่มีมือคู่หนึ่งจับตัวเธอไว้ทันก่อนที่จะล้มลงไป
 
ด้วยเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว ทำให้ผู้คนที่เดินผ่านไปมา ต่างก็ไม่ได้สนใจ เพราะคิดว่าทั้งสองน่าจะมาด้วยกัน
 
เพียงแต่คำพูดของผู้ที่ประคองตัวของเด็กสาววัยรุ่นคนนั้นกลับแตกต่างจากคนปกติ เพราะพูดซ้ำไปมาว่า
 
“เลข 6.....เลข 6.......เลข 6....”
 
.........................................
ตอนต่อไป
ตอนที่ 17 ฆาตกรหมายเลข 6...ผู้ลึกลับ