นายมาร์ค มองมาที่ผมแล้วเริ่มตัวสั่น เพราะผมทำท่าทางน่ากลัวและกำลังเดินตรงไป
“ยู..ยูจะทำอะไรไอ!” นายมาร์คตะโกนเสียงดังแล้วหลับตาปี๋
ผมเดินไปที่ตรงเบื้องหน้าของเขาและหยุดนิ่ง ในขณะที่สายตาของผู้ทั้งหมดกำลังจ้องอยู่
“สวัสดีครับทุกคน ผมชื่อธีย์เป็นแฟนของคุณแคท” ผมพูดขึ้นและหันหน้ามาทางผู้คนโดยที่ไม่สนใจนายมาร์คที่กำลังยืนตัวสั่นด้วยความกลัว
เมื่อผมแนะนำตัว แขกทั้งหมดในงานก็เริ่มซุบซิบกัน
“คนนี้น่ะเหรอแฟนของคุณแคท! ทำไมดูมีอายุมากกว่าเยอะล่ะ?.....”
“ทุกคนอาจจะสับสนว่าทำไมคุณแคทถึงมีแฟนและมีทั้งคู่หมั้น ผมขอประกาศตรงนี้ว่าคุณแคทไม่เคยมีคู่หมั้นใดๆ นั่นแป็นเพียงเรื่องสมัยก่อนที่เธอจะเกิดที่พ่อของเธอพูดเล่นกับเพื่อนเท่านั้น แต่ก็มีคนบางคนที่เอานิทานเรื่องนั้นมาบีบบังคับเธอเพื่อหวังผลประโยชน์”
ผมพูดเกทับเรื่องมีคนหวังผลประโยชน์เพื่อแก้สถานการณ์ เมื่อพูดจบก็มองไปที่นายมาร์ค เพื่อให้แขกในงานรู้ว่าผมหมายถึงใคร
ไอ้หนู! เอ็งเล่นงานผิดคนแล้ว สมัยหนุ่ม ๆ ลุงคนนี้อยู่ชมรมโต้วาทีนะเฟ้ย!
ไม่ได้ ๆ ต้องรีบพูดต่อ ผู้ฟังกำลังคล้อยตาม อะแฮ้ม!
“และเพื่อเป็นการพิสูจน์เรื่องที่ผมพูดว่าเป็นเรื่องจริง ผมขอเชิญคุณแคทที่ด้านหน้าครับ” ผมเชิญแคทออกมาด้านหน้าเพื่อยืนยันเรื่องนี้
แคทเดินออกมาด้วยความประหม่าเพราะสายตาของผู้คนในงานกำลังจับจ้อง
“ธีย์......” แคทเรียกชื่อผมเบาๆเพราะตัวเธอเองก็ไม่รู้ว่าจะพูดอะไรดีในสถานการณ์แบบนี้
“ไม่ต้องพูดอะไรนะครับ” ผมบอกแคท
“แต่.......” แคทกำลังจะพูดอะไรบางอย่าง แล้วเธอก็หยุดคำๆนั้นเอาไว้
ผมกำลังกอดเธอและบรรจงจูบ ลงบนริมฝีปากของเธอ...ด้วยความแผ่วเบา
ท่ามกลางสายตาของแขกบนเรืออย่างไม่อาย
วินาทีนั้นเหมือนเวลากำลังหยุดหมุนและมีเพียงแค่...ผมกับเธอ
ทุกคนบนเรือต่างตกใจเมื่อเห็นภาพดังกล่าว แต่ไม่นาน....ก็เปลี่ยนเป็นเสียงโห่ร้องยินดี
“สุดยอดเป็นการพิสูจน์ที่เท่ห์มากๆ! ” เสียงผู้คนต่างแสดงความยินดีและเชื่อเรื่องที่ผมพูด ด้วยการแสดงครั้งนี้
บางครั้งการกระทำ...ก็สำคัญกว่าคำพูดมากมาย
ส่วนนายมาร์คหลังจากที่เป็นภาพนี้ต่อหน้าต่อตาอีกครั้ง ก็เป็นลมชักและน้ำลายฟูมปากอีกครั้ง จนเจ้าหน้าที่บนเรือต้องเข้ามาช่วยและพาออกไป
เมื่อเห็นนายมาร์ตเป็นลม ขณะที่เราสองคนกำลังจูบกัน แขกในงานทุกคนก็เชื่อคำพูดของผมและเอาคำพูดของนายมาร์คทิ้งไป
แม้เวลาที่จูบในโลกแห่งความจริงจะไม่นาน แต่ความรู้สึกของผมนั้นราวกับมันเนิ่นนานมาก
จนกระทั่งเราสองคนค่อย ๆ แยกกันอย่างช้าๆ
ผมหันไปมองผู้คนแล้วโค้งให้ เพื่อเป็นการบอกว่าเรื่องนี้ได้จบลงแล้ว ขณะที่แคทเองแม้จะยังมึนงงแต่ก็โค้งตามเช่นกัน พร้อมเสียงปรบมือของผู้คน ที่ได้เห็นฉากรักโรแมนติกฉากนี้
“โอ้ว!ผู้ชายคนนี้เท่ห์มาก ฉันอยากมีใครมาจูบต่อหน้าคนเยอะ ๆ แบบนี้เพื่อพิสูจน์ความรักบ้างจัง” หญิงสาวหลายคนเห็นฉากนี้แล้วก็อยากจะมีโมเม้นท์แบบนี้บ้าง
ในขณะที่ผมกำลังจะพาแคทเดินออกจากตรงนี้ ก็มีเสียงๆหนึ่งตะโกนขึ้นมา
“คุณธีย์ร้องเพลงให้พวกเราฟังหน่อยนะคะ!” เสียงจากผู้หญิงคนหนึ่งดังขึ้น จากนั้นก็มีเสียงเรียกร้องมากขึ้นเรื่อยๆ ทุกคนอยากได้ยินเสียงร้องเพลงของฮีโร่ในคืนนี้
“ธีย์คะ ร้องเพลงให้ฟังหน่อยนะคะ แคทเองก็อยากฟัง คืนนี้ธีย์เท่ห์มากๆเลย” แคทมองมาที่ผมแล้วยิ้ม เธอเองก็อยากได้ยินผมร้องพลงเหมือนกัน
เชรี้ยยย! ลืมเรื่องนี้ไปได้ยังไงนี่!
ผมแอบอุทานในใจ อุตส่าห์ทำตีเนียนจะเดินหนีแล้วเชียว ยังมีคนเรียกร้องอีก!
ผมนึกถึงรายชื่อเพลงที่ร้องได้เป็นภาษาอังกฤษออกมาอย่างเร่งด่วน
ABC ดีมั้ย? ไม่ ๆ นั่นมันเพลงเด็กประถม ขายขี้หน้าเกินไป!
Happy Birthday to You ดีกว่าน่าจะร้องได้หมดทุกคน มันน่าจะมีวันเกิดใครบ้างแหละ
จนแล้วจนรอด...เพลงภาษาอังกฤษที่นึกได้ตอนนี้ ก็คงไม่เหมาะที่จะร้อง
ผมเดินกลับไปที่หน้าของวงดนตรีและขอกีตาร์จากนักดนตรีมาสะพายไว้ที่ตัว
“ดูนั่น! ผู้ชายคนนี้จะเล่นดนตรีเองด้วย” ผู้คนในงานต่างตกใจที่เห็นผมทำท่าจะเล่นดนตรีเองแทนที่จะแค่ร้องเพลงอย่างเดียว
เมื่อจัดแจงทุกอย่างเสร็จ ผมก็ยืนอยู่ที่ไมโครโฟน แล้วพูดขึ้นว่า
“เพลงนี้มอบให้คุณนะครับ "ที่รัก" ของผม” จากนั้นนิ้วของผมก็ดีดลงบนสายลวดทั้งหกเส้น
เมื่อเสียงกีต้าร์ดังขึ้นผู้คนส่วนใหญ่ก็รู้ได้ทันทีว่ามันคือเพลงดังเพลงหนึ่งในอดีต
“Because I love you” บทเพลงที่ผมเคยในเล่นสมัยก่อน
ผมจำเพลงนี้ได้อย่างขึ้นใจแม้เวลาจะผ่านมาหลายสิบปี เพราะผมซ้อมมันอยู่นานมาก ๆ และมันคือเพลงที่ผมเคยใช้จีบน้ำหวานนั่นเอง
ในบทเพลงที่เราชื่นชอบ มักมีใครบางคนซ่อนอยู่ในนั้น
ในขณะที่ผมกำลังเล่นเพลงนี้และร้องเป็นภาษาอังกฤษออกมา ภาพของน้ำหวานก็ลอยเด่นอยู่ในความทรงจำ เพราะเพลงนี้เคยเป็นเพลงของเธอ
แต่ตอนนี้ผม...กำลังร้องเพลงนี้ ให้กับผู้หญิงคนอื่น
“สุดยอด! แม้เป็นเพลงที่เรียบง่าย แต่น้ำเสียงเต็มไปด้วยอินเนอร์ที่แฝงไปด้วยความรักและรู้สึกได้จริงๆ ผู้ชายคนนี้ร้องเพลงนี้ได้ดีจริง ๆ ” คุณคิมหันต์วาทยากรและนักแต่งเพลงระดับโลกชื่นชม เมื่อได้ยินเพลงนี้
“ใช่ๆ ขนาดผมเป็นผู้ชายยังหลงรักเสียงร้องนี้เลย” ชายร่างอ้วนที่ยืนอยู่ข้างๆพูดเสริม
ขณะที่ผู้คนทั่วทั้งงานกำลังดื่มด่ำกับบทเพลงนี้ แคทเองก็มองมาที่ผม เธอเช็ดน้ำตาที่หางตาและพูดเบาๆว่า
“ธีย์ คุณช่างเป็นผู้ชายที่น่าอัศจรรย์และพิเศษจริง ๆ”
ในค่ำคืนนั้น ขณะที่ทุกคนกำลังดื่มด่ำกับบทเพลงของผม
แต่ในตัวของผมเองกลับมีแต่ภาพของคนรักเก่า วนเวียนอยู่ในความคิด
และทุกภาพ...ต่างมาซ้อนทับกับภาพของแคท ที่กำลังยืนอยู่เบื้องหน้า
ผู้หญิง...คนที่ผมอยากให้เป็นความรักครั้งสุดท้าย......
..........................