ผมดูการ์ดที่แคทให้มา แล้วก็จนด้วยใจ
เพราะผมไม่เข้าใจในสมการนี้ แถมผมยังอ่อนวิชาคณิตศาสตร์มาก ๆ
ที่สำคัญเธอยังทิ้งท้ายไว้ด้วยว่า "ไม่ต้องติดต่อกันอีก" แต่ถ้ารู้ความหมายของการ์ดแผ่นนี้แล้วค่อยโทรไปหาเธอ
ลึกลับซับซ้อนจริง ๆ ผู้หญิงคนนี้
.........................
“ณ จุดตัดของเส้นขอบฟ้า เมื่อตะวันลับไป นั่นคือสิ่งที่ฉันอยากบอกคุณ”
“คงเป็นปริศนามากกว่าสมการนะพี่ธีย์ เพราะหนูให้เพื่อน ๆ ที่เป็นนักคณิตศาสตร์คำนวนแล้ว ก็ไม่ได้มีความหมายอะไรเป็นพิเศษ แถมคนคำนวนยังโทรกลับมาว่าอีกว่า ว่างมากหรือไงคิดโจทย์อะไรแบบนี้” น้องสาวผมบอกกับผม หลังจากที่ผมขอร้องให้เธอช่วยแปลความหมายการ์ดใบนี้
“พี่ธีย์นี่ก็นะ! จะมีแฟนกับเขาสักคนก็หาแบบคนธรรมดาเหมือนคนอื่นก็ไม่ได้” น้องสาวของผมบ่นผม จนผมแอบคิดว่า ทำไมมันช่างเหมือนกับที่น้องมีนบ่นผมเหมือนกัน
ช่างเป็นสไตล์การบ่นของผู้หญิงบ้านเราจริง ๆ
“อาธัญญ์บ่นพ่อเหมือนหนูเลย น่ารักจริง ๆ” น้องมีนชอบใจที่เห็นผมถูกน้องสาวบ่น
“ก็มันยากจริง ๆ นะ แถมพ่อก็ยังอ่อนวิชาเลขด้วย เรียนจบมาได้ก็บุญแล้ว” ผมพูดแบบเขิน ๆ เพราะวิชาคณิตกับผม ดูจะไม่ค่อยถูกโฉลกกันเท่าไหร่
“นี่ถ้าหนูโตขึ้นแล้วเรียนไม่เก่ง ต้องโทษพ่อแล้วนะ ที่เอาความเรียนไม่เก่งส่งต่อมารุ่นลูก” น้องมีนเหน็บผม พลางทำหน้าย่นใส่แถมมาอีก
ผมมองน้องมีนแล้วก็ยิ้ม พลางส่ายหน้าเบาๆ ด้วยความเอ็นดู
และนึกถึงเหตุการณ์ในชีวิต หลังจากที่ได้รับการ์ดใบนี้
แม้จะหาคำตอบอยู่หลายเดือน แต่ผมก็ยังไม่เคยเข้าใจความหมายของข้อความแม้แต่นิดเดียว
ทำให้ความอยากคุยกับแคทนั้นค่อย ๆ หายไป
เพราะผมไม่กล้าสู้หน้ากับเธอ เนื่องจากไม่รู้ความหมายของการ์ด
และไม่กล้าคิดเข้าข้างตัวเอง
ยิ่งเมื่อรวมกับความเหมาะสมของเราสองคน เรื่องพ่อของเธอ และความรู้สึกของเธอที่ผมมองไม่ออกว่าคิดอย่างไร
ผมก็ไม่ได้ติดต่อกับแคทอีกเลย
ส่วนเช็คเงินสดที่แคทให้มานั้น ผมยังเก็บไว้และไม่ได้ไปขึ้นเงิน เพราะยังหวังว่าหากได้เจอเธออีกครั้ง ผมอยากจะคืนเช็คให้เธอ เพราะลึกๆแล้ว ผมแค่อยากช่วยเธอเท่านั้นเอง
ตั้งแต่นั้นมา...ผมก็ไม่ได้มีความรักอีกเลย ใช้ชีวิตแบบเรียบง่ายไปเรื่อย ๆ
จนกระทั่งเกิดอุบัติเหตุรถชนและนอนเป็นผักอยู่ที่โรงพยาบาล
“ไม่รู้ว่าหนูควรจะดีใจที่พ่อเป็นผู้ชายซื่อ ๆ หรือควรเสียใจที่พ่อซื่อเกินไปกันแน่” น้องมีนบ่นผมอยู่ข้างเตียงที่เดิม หลังจากที่พวกเราออกมาจากความทรงจำ
“ต้องภูมิใจสิ อย่างน้อยพ่อของหนูก็เป็นคนดีนะ” ผมตอบด้วยความภาคภูมิใจ
“พ่อนี่ก็นะ ถ้าไม่นับเรื่องเป็นคนดี ก็ไม่มีอะไรเลยนะนี่ เข้าใจแล้วว่าทำไมชาตินี้หนูไม่ได้เกิดสักที” น้องมีนเอามือกอดอกแล้วทำท่างอนผม
“แล้วหนูชอบแม่คนไหนล่ะ พ่อจะได้ย้อนกลับไปช่วงนั้นแล้วแก้ตัวใหม่” ผมถามน้องมีน
“ก็ชอบทุกคนนะ เพราะแต่ละคนก็ดีคนละแบบ ต้องขึ้นอยู่ที่พ่อแล้วล่ะ ว่าจะเลิกใครมาเป็นแม่ของหนู” น้องมีนตอบกลับมา แล้วทำหน้าเหมือนเลือกไม่ถูก
“แล้วถ้าพ่อเลือกผิด จนหนูไม่ได้เกิดมาอีก หนูจะโทษพ่ออีกไหม?” ผมถามน้องมีนต่อ
“ไม่! พ่อต้องเลือกแม่ให้ถูกให้ได้ หนูยังอยากเกิดเป็นลูกพ่ออยู่นะ” น้องมีนพูดพลางร้องไห้และเข้ามากอดผม
เมื่อเห็นท่าทีของเธอ ยิ่งทำให้ผมคิดหนักมากขึ้นว่าสุดท้ายแล้วผมจะเลือกใคร
“แล้วถ้าพ่อเลือกถูกคน แต่แก้ไขอดีตไม่ได้ล่ะ?” ผมถามน้องมีนอีกครั้ง
“ก็ไม่ได้! ครั้งนี้พ่อมีโอกาสแก้ตัวแล้ว พ่อต้องทำให้ได้ อนาคตของหนูขึ้นอยู่กับพ่อแล้วนะ แง ๆ” น้องมีนปล่อยโฮออกมา ดูท่าแล้วผมคงต้องทำให้สำเร็จเพียงอย่างเดียวเท่านั้น
“เอาล่ะ! คนเก่ง ไม่ต้องร้องไห้แล้ว พ่อสัญญาว่าจะทำให้สำเร็จ” ผมลูบหัวน้องมีนแล้วกอดเธอ หลังจากอยู่ด้วยกันมาเป็นเวลานาน ผมก็รู้ว่าผมต้องทำให้สำเร็จ เพื่อลูกสาวตัวน้อยของผมจะได้เกิดมา
“งั้นพ่อค่อยๆนึกนะว่าจะกลับไปช่วงไหน หนูจะนั่งรอนิ่ง ๆ ตรงนี้” น้องมีนปาดน้ำตา แล้วนั่งลงข้างๆผมอย่างว่าง่าย
ส่วนผมก็นั่งลงแล้วทำสมาธิเพื่อเลือกผู้หญิงที่ผมคิดว่า น่าจะเป็นแม่ของน้องมีนได้
เวลาค่อยๆผ่านไปเรื่อย ๆ จนกระทั่ง!
“พ่อตัดสินใจได้แล้ว!” ผมลืมตาแล้วพูดขึ้น
“เย้! ขอให้เลือกถูกคนนะพ่อ แล้วสรุปพ่อเลือกใครล่ะ?” น้องมีนทำท่าทางอยากรู้
...............................
“เอาล่ะ! งั้นเรามาทำการย้อนเวลากันดีกว่า หนูจะใช้พลังครั้งสุดท้ายพาร่างวิญญาณของพ่อกลับไปในช่วงเวลาที่พ่อต้องการ จนกว่าจะถึงช่วงเวลานั้น พ่อห้ามลืมตาเด็ดขาดนะ ไม่อย่างนั้นวิญญาณที่อยู่ในห้วงกาลเวลาจะจับพ่อออกไปและไม่ได้เกิดอีกเลยตลอดกาล” น้องมีนเตือนผมด้วยสีหน้าจริงจัง
ผมพยักหน้าเพื่อบอกว่าเข้าใจ เรื่องแบบนี้เชื่อลูกสาวตัวน้อยดีที่สุด
“ถ้าพ่อพร้อมแล้ว ก็จับมือหนูไว้แล้วหลับตา จำไว้นะห้ามลืมตาเด็ดขาด” น้องมีนย้ำอีกครั้ง ก่อนร่ายมนต์โบราณที่ผมไม่เคยได้ยิน
ขณะที่ร่ายมนต์ ผมรู้สึกว่าร่างกายร้อนขึ้นเรื่อยๆ ความทรงจำทั้งหมด ไหลเวียนเป็นภาพในหัวที่เด่นชัดขึ้น มันเหมือนเราดูหนังแล้วกำลังกรอกลับหลัง เริ่มตั้งแต่ตอนที่ผมถูกรถชน แล้วค่อยๆย้อนกลับไปเรื่อยๆ จนภาพทุกภาพค่อย ๆ หมุนเร็วขึ้น
และกลายเป็นสีขาวโพลนที่ดูไม่ออก ว่าตอนนี้กำลังอยู่ในช่วงเวลาไหน?
ไม่นานร่างของเราทั้งคู่ก็เรืองแสงได้ และหายจากตรงนั้นทันที!
.............................