เป็นเวลาหลายเดือนที่ผมแวะเวียนมาที่นี่ ตอนนี้ผมก็กลายเป็นเหมือนหลานรักของ “คุณตาจรัล” ไปแล้ว
“พ่ออุ๊ยครับ วันนี้ผมเอาเมล่อนญี่ปุ่นที่สวนมาฝากนะครับ” ผมให้พ่อกับแม่ส่งเมล่อนมาให้ที่นี่ เพื่อเอามาฝากคุณตา
“แหม! ไม่เห็นต้องเอาของมาฝากหรอก แค่มาคุยเป็นเพื่อนกับคนแก่บ่อย ๆ แค่นี้ก็พอแล้ว” คุณตารับของฝากแล้วยิ้มอารมณ์ดี ต่างจากวันแรก ๆ ที่เราเจอกัน
หลังจากผมสนิทกับคุณตา ท่านก็เล่าว่ามีคนมาติดต่อขอซื้อที่ดินแปลงนี้เกือบทุกวัน แต่ก็ให้คนงานปฏิเสธไปทั้งหมด
“ผมไม่ได้เดือดร้อนเรื่องเงิน จะขายไปทำไม” คุณตาพูดประโยคนี้ให้ผมฟัง ทำเอาผมเองก็หนักใจที่ดูเหมือนการเจรจาครั้งนี้น่าจะยากเกินไป
แต่พอได้คุยกันบ่อย ๆ ผมก็เริ่มรู้สาเหตุที่ท่านไม่ยอมขาย
“ที่ดินแปลงนี้เป็นมรดกตกทอดมานาน ลูกหลานผมก็รบเร้าให้ขาย แต่ครอบครัวเรามีฐานะที่ไม่ลำบากแล้ว ผมก็อยากให้ที่ดินผืนนี้ทำประโยชน์กับผู้คนมากกว่าจะตกอยู่กับพวกนายทุน” คุณตาพูดแล้วก็มองไปที่ภูเขาเบื้องหน้าที่อุดมสมบูรณ์เหมือนป่าแห่งหนึ่ง
“แล้วทำไมพ่ออุ๊ย ถึงไม่บริจาคให้กับหน่วยงานรัฐบาลล่ะครับ จะได้เอาไปใช้เพื่อในโครงการต่าง ๆ ของรัฐบาลได้” ผมถามคุณตา
“ผมเคยเป็นข้าราชการมาก่อน ก็รู้ว่าระบบข้างในเป็นอย่างไร ถ้าทำแบบนั้น เอาเข้าจริง ๆ แล้ว ผลประโยชน์คงตกมาถึงชาวบ้านไม่มาก ก็เลยไม่ทำแบบนั้น” คุณตาพูดแล้วก็ถอนหายใจ
วันนั้นผมกลับไปพักที่โรงแรม แล้วก็คิดถึงคำพูดของคุณตาเจ้าของที่ แล้วก็สมเพชตัวเอง ที่ผมก็ไม่ได้แตกต่างจากนายทุนพวกนั้น ที่เข้ามาหาท่านเพื่อจะขอซื้อที่ดินไปทำธุรกิจของตัวเอง
หลักการเจรจาที่ดี ก็คือทั้งสองฝ่ายต้องได้ประโยชน์ที่พอใจทั้งคู่
ผมจึงต้องเปลี่ยนวิธีใหม่ เพื่อให้คุณตาได้สมหวังอย่างที่ตั้งใจ
หนึ่งอาทิตย์ต่อมาผมก็มาหาคุณตาอีกครั้ง พร้อมเห็นนายมาร์ค ผมทอง เดินหัวเสียออกมา
“เป็นคนแก่ที่หัวแข็งจริง ๆ ให้ราคาขนาดนี้แล้วยังไม่ยอมขายอีก เสียเวลามาก ๆ เลย พวกเรากลับ!” นายมาร์ค ผมทองพาพรรคพวกกลับไป เพราะเจรจาเรื่องที่ดินไม่สำเร็จ
ทีนี้ก็ถึงคิวของผมแล้ว
“พ่ออุ๊ยครับ ผมมีผลไม้ที่สวนมาฝาก ตอนนี้มะม่วงออกมาแล้ว พ่ออุ๊ยลองทานดูนะครับ” ผมส่งมะม่วงให้คุณตา แล้วก็ลังเลเล็กน้อยกับสิ่งที่จะพูดออกไป
“วันนี้พ่อหนุ่มมีอะไรในใจหรือเปล่า พูดออกมาได้นะ?” คุณตาบอกผมหลังจากที่สังเกตท่าทางของผม
“ผมมีเรื่องอยากจะขอโทษพ่ออุ๊ยครับ” ผมตอบคุณตาด้วยความรู้สึกผิด
จากนั้นผมก็เล่าความจริงทุกอย่างให้ท่านฟัง ไม่ว่าจะเรื่องที่พ่อของแคทส่งมาเพื่อซื้อที่ดินหรือเรื่องแต่งงาน
“แล้วพ่อหนุ่มจะทำอย่างไรต่อไป เพราะก็รู้ว่าอย่างไรผมก็ไม่ขายให้พวกนายทุน” คุณตาพูดอย่างตรงไปตรงมา แต่ไม่ได้ดุ น้ำเสียงของท่านเหมือนกับกำลังถามผม
ส่วนผมเองก็นั่งนิ่งอยู่ตรงนั้น........
.....................
“เป็นอย่างไรบ้าง กลับมาแบบนี้คงไม่สำเร็จใช่ไหม?” พ่อของแคทพูดกับผมที่โต๊ะรับแขก เมื่อผมเดินทางกลับมาจากเชียงใหม่
“จะมาเป็นลูกเขยของผม งานแค่นี้ทำไม่ได้ก็ถือว่าไม่ผ่าน ยังจำข้อตกลงของเราได้ใช่ไหม?” พ่อของแคททวนเรื่องข้อตกลง
“จำได้ครับ” ผมตอบพ่อของแคท ขณะที่แคทเริ่มใจเสียเพราะรู้ถึงผลลัพท์ของเรื่องนี้
“งั้นเรื่องแต่งงานของลูกสาวผมก็ต้อง....” พ่อของแคทพูดทิ้งท้ายและยิ้มอย่างผู้ชนะ
“จัดงานแต่งงานครับ” ผมตอบสวนทันที พร้อมเลื่อนซองเอกสารไปที่เบื้องหน้า
“มะ..หมายความว่ายังไงนี่!” พ่อของแคทตกใจและรีบเปิดซองเอกสารทันที
“ก็หมายความว่าผมทำสำเร็จและทำสัญญากับเจ้าของที่ดินเรียบร้อย สามารถตัดหน้าคู่แข่งไม่ให้ซื้อที่ดินได้สำเร็จน่ะสิครับ” ผมพูดเสียงดังอย่างผู้ชนะ ขณะที่พ่อของแคทและตัวแคทเองก็ตกใจจนตาค้าง
วันนั้นหลังจากผมนิ่งไป ผมก็บอกโครงการของผมให้คุณตาฟัง ว่าผมอยากร่วมหุ้นกับคุณตาเพื่อพัฒนาที่ดินผืนนี้ให้เป็นแหล่งสร้างงานให้ชาวบ้าน โดยมีทั้งสวนป่าและศูนย์การเรียนรู้ เพื่อให้ชาวบ้านมีงานทำและที่ดินก็ได้ใช้ประโยชน์กับสาธารณะโดยไม่ต้องขายอีกด้วย
โดยเบื้องต้นผมจะจ่ายค่าที่ดินครึ่งหนึ่งในราคาปัจจุบัน เพื่อเป็นการร่วมทุนก่อน พร้อมระบุว่าจะไม่มีการขายที่ดินแปลงนี้ต่อให้กับใครและต้องใช้ที่ดินเพื่อสาธารณะกุศลเท่านั้น
ข้อตกลงนี้ปลดล็อคความต้องการของทุกฝ่าย ทั้งฝ่ายคุณตาและฝ่ายผม รวมถึงลูกหลานของคุณตา ที่ยังเป็นเจ้าของที่ดินแปลงนี้เหมือนเดิมและไม่ต้องลงทุนอะไรเพิ่มอีกด้วย
“นี่มันไม่ถูกต้อง แค่มีชื่อร่วมแล้วทำธุรกิจพาณิชย์ไม่ได้ ถือว่าไม่ผ่านบททดสอบ” พ่อของแคทไม่ยอมรับ
“คุณพ่อครับ ตามข้อตกลงของเราคือซื้อที่ผืนนี้หรือขัดขวางไม่ให้คู่แข่งได้ไปนะครับ ซึ่งผมก็ทำตามนั้นแล้ว คุณพ่อกำลังผิดสัญญานะครับ” ผมทวนข้อตกลงอีกครั้ง
พ่อของแคทเงียบไป เพราะจำนนด้วยเหตุผล อย่างน้อยศึกแห่งศักดิ์ศรีระหว่างพ่อของแคทกับพ่อของนายมาร์ค ผมทอง ก็ได้ข้อสรุปแล้ว
“ได้ผมถือว่าคุณทำสำเร็จ ผมอนุญาตให้แต่งงานกับลูกสาวผมได้ แต่ว่า......” พ่อของแคทพูดแล้วก็ยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์ พร้อมพูดว่า
“แต่เงินค่าร่วมทุนแบบนี้ผมจะไม่จ่ายให้นะ เพราะผมอยากซื้อมาทำธุรกิจทั้งผืน คุณต้องหาเงินมาจ่ายเอง ฮ่าๆๆ” พ่อของแคทพูดแล้วก็หัวเราะดังลั่นด้วยความสะใจ ขิงยิ่งแก่ก็ยิ่งเผ็ดจริง ๆ
ตอนนี้แคทที่กำลังนั่งฟังอยู่ก็เริ่มร้องไห้ เพราะเธอรู้ว่าที่ดินผืนนี้มีราคาหลายพันล้าน ครึ่งหนึ่งของราคาที่ดินก็คือพันกว่าล้าน
ซึ่งถือเป็นจำนวนมากที่ผมไม่มีปัญญาไปหามาแน่นอน
ส่วนผมที่นั่งนิ่งก็มองพ่อของแคทแล้วยิ้ม พร้อมพูดตอบกลับไปว่า
“ไม่ต้องห่วงเรื่องนี้นะครับ เพราะผมชำระค่าร่วมทุนไปเรียบร้อยแล้ว ถึงได้มีชื่ออยู่เป็นเจ้าของร่วมอยู่ในโฉนด คุณพ่ออย่าลืมรักษาคำพูดของตัวเองด้วยแล้วกัน ผมขอตัวไปตัดชุดเจ้าบ่าวก่อน สวัสดีครับ” ผมยิ้มอย่างผู้มีชัยพร้อมจูงมือแคทออกไปจากห้อง ท่ามกลางเสียงโวยวายของพ่อแคทที่กำลังหัวเสียอยู่คนเดียว จนไม่เหลือมาดเจ้าพ่อ
“ไม่..เป็นไปไม่ได้..เป็นไปไม่ได้!”
...........................
คุณกำลังสงสัยว่าผมเอาเงินจากไหนมาตั้งมากมาย เรื่องมันก็ง่ายๆ อย่าลืมสิว่าผมมาจากอนาคตและทำการย้อนอดีต ทำให้รู้เรื่องราวจากอนาคตมาพอสมควร
และหนึ่งในเรื่องราวที่ช่วยผมในครั้งนี้ก็คือ...ของสิ่งหนึ่งที่ผมเริ่มซื้อมันเก็บไว้ในช่วงที่เริ่มออกมาใหม่ๆ
นั่นก็คือเจ้าเหรียญบิทคอยน์หรือเงินดิจิตอลนั่นเอง ซึ่งตอนนั้นผมซื้อในราคาเหรียญละสามสิบกว่าบาทเท่านั้น
แต่ในปีนี้เหรียญบิทคอยน์หนึ่งเหรียญมีมูลค่าหลักล้าน ผมซื้อไว้สามพันเหรียญคุณก็ลองคิดดูแล้วกันว่าผมจะมีเงินเท่าไหร่
ดีนะที่ผมยังจำได้ว่าซื้อไว้ เพราะก็เก็บไว้นานจนเกือบลืมเหมือนกัน
และนี่ก็คือเรื่องราวในช่วงที่ผมไปขอแคทแต่งงานกับพ่อของเธอ
..............................
ตอนนี้ผมยังนอนที่เตียงผ้าใบริมชายหาดเหมือนเดิม ไม่นานผมก็ได้ยินเสียงแว่วมาแต่ไกล
“คุณตาเดินช้าจังเลย แถมเล่านิทานก็ไม่สนุกด้วย หนูไม่เล่นกับคุณตาแล้ว ไปขี่คอคุณพ่อดีกว่า” เสียงน้องมีนดังขึ้น เมื่อผมหันไปดูก็เห็นเธอกำลังขี่คอพ่อของแคท
หรือตอนนี้ก็คือพ่อตาของผมนั่นเอง!
“น้องมีนเล่นกับตาดีกว่า เจ้านั่นมันไม่ได้เรื่องเล่นกับมันไม่สนุกหรอก” พ่อตาของผมอ้อนหลานสาว
“คุณตาพูดไม่เพราะเลย ทำไมเรียกคุณพ่อว่ามัน น้องมีนไม่ชอบ น้องมีนจะลงแล้ว ไปหาคุณพ่อดีกว่า” ลูกสาวตัวน้อยของผมเริ่มงอน จนคุณพ่อตาอดีตเจ้าพ่อผู้ยิ่งใหญ่หงอยไปเลย
หลังจากติดหลานสาวคนนี้ พ่อของแคทก็ดูว่านอนว่านอนสอนง่ายมากขึ้น จนดูเป็นชายชราใจดีคนหนึ่ง ที่ไร้พิษสงอย่างในอดีต
ชีวิตนี้อะไรก็เปลี่ยนไปได้ ถ้าคุณเริ่มเปลี่ยนแปลงมันจริง ๆ ไม่ต้องรอย้อนอดีตแบบผมหรอก เพราะมันคงมีแต่ในนิยาย
แค่วินาทีที่คุณคิดแก้ไข ตอนนั้นมันก็กลายเป็นอดีตไปแล้ว
แต่มันเป็นอดีต...ที่ตัวคุณยังสามารถเปลี่ยนแปลงและแก้ไขได้
ขอให้โชคดีกับอนาคตที่คุณกำลังจะเปลี่ยนแปลง....และแก้ไขมัน
สวัสดีและขอบคุณทุกท่านนะครับ
..............
** ตอนพิเศษจบแล้วจ้า **
...........................
ขอขอบคุณสบู่สมุนไพรกลั่น เบนเนทสูตรอโรม่า ที่สนับสนุนตอนพิเศษ
หาซื้อได้ที่ 7-11 และห้างสรรพสินค้าและร้านค้าชั้นนำทั่วประเทศ
หรือสั่งทางออนไลน์ที่ www.bennett.co.th นะคะ
ตอนนี้สั่งครบ 12 ก้อน ส่งฟรีถึงบ้านเลย แถมยังคละสูตรได้อีก
“อะไรดีบุ๋มก็ว่าดี...สบู่เบนเนท ยอดขายอันดับ 1 ติดต่อกัน 6 ปีซ้อน”
.............................
สวัสดีค่ะ ขอบคุณทุกท่านที่ติดตามนิยายเรื่อง "ย้อนอดีต...ตามหาแม่ของลูก" มาจนถึงตอนนี้นะคะ
ตอนนี้ทาง Bennet Love Story ก็ขอฝากนิยายเรื่องใหม่ไว้ด้วยนะคะ
พบกับนิยายรักเรื่องใหม่จาก Bennett Love Story
เริ่มวันที่ 1 มิถุนายน 2564
“ความรัก...ชั่วพริบตา”
ความรัก ที่เกิดขึ้นชั่วพริบตา จะคงอยู่เป็นนิรันดร์หรือไม่
เรื่องราวของ ”ทับทิม” หญิงสาววัยรุ่นธรรมดา ที่มีอาชีพเป็นหมอดูออนไลน์
เธอเป็นผู้มีความผิดปกติด้านอารมณ์ที่แปลกกว่าคนอื่น
ทุก ๆ ตอนเช้าที่ตื่นนอน เธอจะหลงรักผู้ชายคนแรกที่เธอมองเห็นทันที
แต่ก็จะลืมความรักวันนั้น เมื่อตื่นขึ้นมาในตอนเช้าวันใหม่
เธอจึงอยากหาทางแก้ไข เพื่อที่จะจะสามารถรักใครได้สักคนเหมือนคนทั่วไป
จนกระทั่งวันหนึ่ง เธอเห็นผู้ชายคนหนึ่งแล้วหลงรักมากเป็นพิเศษ
ที่สำคัญเมื่อตื่นขึ้นมาในเช้าของอีกวัน....เธอก็ยังคงรักเขาอยู่
เมื่อความรักครั้งนี้ไม่เหมือนเดิม
เธอจึงอยากจะให้ความรักที่เกิดขึ้นแบบไม่มีเหตุผลครั้งนี้ อยู่ยั่งยืนตลอดไป
แต่ผู้ชายที่ไหนจะมารักผู้หญิงหน้าตาธรรมดา ๆ ที่ไม่รู้จักกันมาก่อน
และตัวเธอเอง ก็ไม่รู้ว่าความรักชั่วพริบตาครั้งนี้
จะอยู่ต่อไปได้อีกนานแค่ไหน
..................................
ผู้เขียน : รองเท้าแตะเหยียบดวงจันทร์
Project : Bennett Love Story กับ 6 นิยายรัก
สนับสนุนโดย
สบู่เบนเนท เอ็กซ์ตร้าไวท์
“อะไรดีบุ๋มก็ว่าดี...สบู่เบนเนท ยอดขายอันดับ 1 ติดต่อกัน 6 ปีซ้อน”
....................
นิยายอัพทุกวัน เวลา 12.00 น.
เริ่ม 1 มิถุนายน 2564
...........................................................