ตอนที่ 4 บุคคลลึกลับ
ปิ๊น! ปิ๊น!
 
“เป็นอะไรสาวน้อย! ทำไมมาเดินร้องไห้อยู่สี่แยก?”
 
เสียงแตรรถมอเตอร์ไซค์ดังขึ้นพร้อมเสียงเรียกจากด้านหลัง ทำให้ฉันหยุดเดิน แล้วหันหลังมองตามเจ้าของเสียงนั้น
 
ผู้ที่มาทักคือหญิงร่างท้วมวัยกลางคน ผมยาว ผิวขาวแบบคนจีน หน้าตาดูคล้ายซิ้มแถวบ้าน ขี่รถมอเตอร์ไซค์สีดำ ใส่เสื้อยืดกางเกงยีนส์และสวมเสื้อกั๊กวินมอเตอร์ไซค์สีส้มหมายเลข 6
 
มองไปมองมาหน้าตาซิ้มคนนี้ก็ดูคล้ายนักร้องดังคนหนึ่ง ที่ชื่อ “เจนนิเฟอร์ ซิ้ม” อยู่เหมือนกันนะ
 
“ไม่..ไม่ได้เป็นอะไรค่ะ ” ฉันรีบเช็ดน้ำตาและขี้มูกที่กำลังไหลย้อยด้วยความอาย
 
“โดนเพื่อนแกล้งจนวันสุดท้ายของการเรียนเลยสินะ?” ซิ้มขาแวนซ์ทักอีก
 
“เอ๋!...” ฉันประหลาดใจทันที ซิ้มรู้ได้อย่างไรว่าฉันโดนแกล้งจากเพื่อน
  
“เก่งมากเลยนะ ที่อดทนให้เพื่อนบูลลี่มาตลอด 3 ปีและไม่ยอมบอกที่บ้านให้รู้”
 
ฉันมองหน้าซิ้ม แล้วรีบมองรอบๆทันที
 
กล้อง!...ต้องมีกล้องซ่อนแอบอยู่แน่ๆ คงมีใครมาแอบถ่ายรายการตรงสี่แยกนี้ แล้วจ้างนักร้องคนนั้นมาปลอมตัวหรือเปล่า
 
“ยัยหนู! ไม่ต้องมองหากล้องหรอก นี่ไม่ใช่รายการแอบถ่าย แล้วข้าก็ไม่ใช่นักร้องคนนั้นด้วย” ซิ้มขาแว้นซ์พูดตอบสิ่งที่ฉันคิดออกมาหมด
 
เฮ้ย!    นี่ฉันคิดดังไปหรือ! ทำไมซิ้มคนนี้ถึงรู้ความคิดของฉัน?
 
“ไม่ได้คิดดังไปหรอก แต่ข้าได้ยินทุกอย่างที่เจ้าคิด แล้วก็เลิกเรียกข้าว่าซิ้มสักที ”
 
เป็น....เป็นไปไม่ได้ หรือว่าซิ้มคนนี้…..ก็คือ........
 
มิจฉาชีพ!
 
ใช่แน่ๆ! เดี๋ยวนี้มิจฉาชีพมีหลากหลายประเภท นี่คงเป็นเทคนิคหนึ่งในการหลอกผู้คนสินะ เดี๋ยวนี้มักมีข่าวพวกมิจฉาชีพชอบติดตามและล่อลวงเด็กสาวมัธยมต้นที่น่ารักๆ อยู่ตลอด
 
นี่ความน่ารักของฉันไปเตะตาพวกมันหรือนี่!  โถ่!ไม่น่าเลยปอเทือง! ทำไมแกถึงไม่น่ารักให้น้อยกว่านี้นะ
 
ตำรวจ! ใช่แล้วฉันต้องโทรหาตำรวจ
 
“ไม่ใช่เฟ้ย! ยัยหนู อย่ามาเอาข้าไปเปรียบเทียบแบบนั้น ข้าเจ๋งกว่าพวกนั้นตั้งเยอะ เลิกคิดอะไรบ้าๆแบบนั้นได้แล้ว”
 
“สวัสดีค่ะ! ที่นั้นสถานีตำรวจใช่ไหมคะ? มีมิจฉาชีพมาล่อลวงหนูแถวสี่แยกค่ะ” ฉันค่อยๆถอยห่างออกไปด้านหลัง และโทรหาตำรวจเรียบร้อย
 
ไม่นานก็มีเสียงตามสายตอบกลับมา
 
“ไม่ใช่ค่ะ... ที่นี่คือสาวน้อยน่ารักที่ขี่มอเตอร์ไซค์ และกำลังคุยอยู่กับหนูนะคะ หนูปอเทือง”
 
เฮ้ย! ทำไมเสียงตำรวจในโทรศัพท์เป็นเสียงซิ้มคนนี้ล่ะ แถมยังรู้จักชื่อของฉันด้วย
 
ฉันค่อยๆมองซิ้มขาแวนซ์คนนี้อีกครั้ง ตอนนี้เหงื่อเม็ดใหญ่เริ่มผุดขึ้นมาจากหน้าผาก แขนขาเริ่มสั่นด้วยความกลัว พร้อมอุทานดังๆว่า....
 
“ผีหลอก!!......”
 
ทันใดนั้น! ร่างกายของฉันก็ขยับไม่ได้ ซิ้มขาแวนซ์คนนี้ค่อยๆก้าวขาลงมาจากมอเตอร์ไซค์ แล้วเดินมาหยุดอยู่ตรงหน้าของฉัน
 
“ป้า!...ป้าเป็นผีเหรอ อย่าทำอะไรหนูนะ ...หนูเป็นคนดี”
 
“เรียกป้าเลยหรือ? หยาบคายมาก เรียกพี่สาวก็พอมั้ง”
 
“เอ่อออ.....พี่สาวคนสวย  ปล่อยหนูเถอะนะ หนูมีแม่กับยายต้องดูแล อยากได้อะไรก็บอกเดี๋ยวหนูทำบุญกรวดน้ำไปให้” ฉันพูดเสียงสั่นด้วยความกลัว พลางคิดในใจว่า ผีเดี๋ยวนี้พัฒนาเป็นหลอกคนกลางวันแสกๆได้แล้วหรือนี่
 
“เอาล่ะ! ยัยหนูปอเทือง ก่อนอื่นข้าไม่ใช่ผีและข้าก็ไม่ใช่คน”
 
“แล้วป้า...เอ้ย! แล้วพี่สาวคนสวยคืออะไร และต้องการอะไรจากหนู?”ฉันถามต่อ
 
ซิ้มขาแวนซ์ทำหน้านิ่ง แล้วพูดกับฉันด้วยน้ำเสียงราบเรียบ
 
“ยัยหนู! เจ้าเคยได้ยินเรื่องราวของบุคคลเหล่านี้บ้างไหม?”
 
“โจนาธาน มอลตัน จากเด็กฝึกงานทำเฟอร์นิเจอร์จนๆในรัฐนิวแฮมป์เชียร์ วันหนึ่งที่สี่แยกในรัฐนั้น เขาได้ทำสัญญากับซาตานและกลายเป็นบุคคลที่ร่ำรวยที่สุดของรัฐนิวแฮมป์เชียร์ ”
 
“ในปี 1936 ที่สี่แยกแถวด็อคเคอรี่ แพลนเทชัน (Dockery Plantation)ในสหรัฐอเมริกา นักดนตรีโนเนมที่ชื่อโรเบิร์ต จอห์นสัน ได้ทำสัญญากับซาตานที่นี่ หลังจากนั้นเขาก็กลายเป็นนักดนตรีที่โด่งดังระดับโลก”
 
“รู้จักบ้างไหม ยัยหนูปอเทือง? ”
 
“ไม่รู้จักเลยสักคน มีเรื่องของคนไทยบ้างไหมนี่” ฉันทำหน้างงๆ แล้วมองไปที่ซิ้มปริศนาคนเดิม
 
“รู้จักพี่เสพ วงโลซานไหม ที่เมื่อก่อนในวงมีกัน 3 คนน่ะ!”
 
“พี่เสพหรือ? อันนี้รู้จัก เพลงเค้าดังจะตาย โดยเฉพาะเพลง “60 อีกครั้ง” นี่ ตากับยายแถวบ้านยังร้องได้เลย”
 
ฉันเริ่มดีใจที่รู้จักกับบุคคล ที่ซิ้มปริศนาขาแวนซ์คนนี้พูดถึงสักที
 
วงโลซานเป็นวงดนตรีแนวหมอลำร็อคชื่อดังที่ระดับตำนานของไทย และเป็นวงแม่ของฉันชื่นชอบมาก นักร้องนำและหัวหน้าวงชื่อพี่เสพ โลซาน มีเพลงฮิตไต่ชาร์ทมากมายและขายได้หลักล้านทุกอัลบั้ม
 
“เมื่อ 20 กว่าปีที่แล้ว พี่เสพและสมาชิกวง ได้มาเจอกับข้าที่สี่แยกแถวร้านลาบแห่งหนึ่ง หลังทำสัญญากับข้า วงโลซานก็กลายเป็นตำนานระดับประเทศ”  
 
“ทีนี้... เจ้าคงจะรู้แล้วสินะว่าข้าคือใคร?” ซิ้มปริศนาตั้งคำถามกับฉันอีกครั้ง
 
“ทำสัญญากับผู้คนที่ประสบความสำเร็จตามสี่แยก...อย่างนั้นพี่สาวก็คือ.......”
 
“ก็คือ...” ซิ้มปริศนาลุ้นคำตอบของฉันจนตัวเกร็ง
 
“วินมอเตอร์ไซค์! ที่ขายประกันใช่มั้ย?” ฉันตอบด้วยความมั่นใจ
 
“ก็ช่วงนี้เศรษฐกิจมันไม่ดีเลยต้องทำงาน 2 จ๊อบ ก็.....เฮ้ยไม่ใช่เฟ้ย! แหม! เกือบคล้อยตามจนเสียทรงไปซะแล้ว”
 
“เอาล่ะ! รอเจ้าเข้าใจ คงเปลืองหน้ากระดาษไปอีกเยอะ ข้าเฉลยเลยดีกว่า......”
 
“ข้าก็คือ.........”
 
"ก็คือ..." ฉันลุ้นคำตอบกลับจนตัวเกร็งบ้าง
 
“ซาตี้!”
 
พรึ่ดดด!...เฮ้ย!....อะไรนะ “ซาตี้”  ชื่อบ้าอะไรพิลึกชะมัด
 
แต่มันคง....ยังไม่พิลึกพอ
 
เพราะตอนต่อไป....มันจะยิ่งพิลึกมากกว่าที่คุณคิดแน่นอน
 
………………………………………….