ตอนพิเศษ : “เรื่องราวหลังจากนั้น”

 

หลายเดือนผ่านไปหลังจากงานประกวด T idol รอบสุดท้ายจบลง

 

            ฉันกำลังยืนอยู่ในสถานที่แห่งหนึ่งและมองดูท้องฟ้าสีครามที่มีก้อนเมฆรูปทรงประหลาดลอยอยู่ พลางนึกถึงเรื่องราวในคืนวันประกวดรอบสุดท้าย ที่มีเรื่องราวมากมาย

 

            มาถึงตรงนี้ พวกคุณเองก็คงอยากจะรู้ใช่ไหม ว่ามีอะไรเกิดขึ้นบ้าง! ใจร่มๆนะ เดี๋ยวฉันจะค่อยๆลำดับเรื่องราวและเล่าให้ฟัง

 

            หลังฉันร้องเพลงที่สองพร้อมกับ ฤทธิ์ซ่าและพี่เจมส์แล้ว เพลงสุดท้ายที่พวกเราใช้แสดงเพลงที่สามก็คือเพลงเร็วของฉัน พร้อมท่าเต้นอันโด่งดังที่ผู้คนทั่วประเทศรู้จักดี โดยมีฤทธิ์ซ่าและพี่เจมส์ร่วมแสดงด้วย

 

            พอถึงตอนนี้ผู้ชมแทบทั้งสนามกีฬาก็ลุกขึ้นเต้นและสนุกไปกับพวกเราจนจบการแสดง แม้จะมีเสียงเรียกร้องให้พวกเราทำการแสดงต่อ แต่ด้วยกฏของการประกวดก็ทำให้แสดงได้แค่สามเพลง

 

            เมื่อลงไปจากเวที พี่สาวซาตี้บิ๊กแฟนตัวจริงของฤทธิ์ซ่า ก็ขอถ่ายรูปคู่กับฤทธิ์ซ่าจนแบตมือถือหมดเกลี้ยง พร้อมยังเอาขนเอาแผ่นซีดีและโปสเตอร์มาให้ฤทธิ์ซ่าเซ็นต์ก่อนกลับอีกด้วย เรียกได้ว่าสาสมแก่ใจยิ่งนัก

 

            ส่วนฉันก็ติดต่อหาสามสาวและพามาถ่ายรูปกับฤทธิ์ซ่าด้วยกัน ความสัมพันธ์ของเพื่อนกลับมาแน่นแฟ้นมากกว่าเดิม

 

            ส่วนนายต้นกล้าและซาตานที่ไม่ได้พูดถึงน่ะเหรอ พวกนั้นได้รับสิ่งที่ทำไปเรียบร้อยแล้ว ช่วงที่ฉันกำลังแสดงอยู่บนเวที เมื่อภารกิจเรียบร้อยสิ่งเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นนั้นไม่ได้เกิดแต่กับฉันแค่คนเดียว แต่ก็เกิดกับนายต้นกล้าด้วย เพราะทันทีที่ภารกิจของฉันสำเร็จ นายต้นกล้าที่ต้องเปิดโปงเบื้องหลังของฉันก็เลยล้มเหลวไปโดยอัตโนมัติ เลยต้องกลับคืนร่างที่ตัวเล็ก หน้าบ้านๆและสายตาสั้น แถมคืนร่างขณะที่กำลังถือมีดและแอบขึ้นมาตอนฉันทำการแสดงอยู่บนเวที

 

            เมื่อกลับสู่ร่างเดิมแบบกระทันหัน ทำให้ร่างกายหดตัว เสื้อผ้าเลยยาวกว่าเดิมจึงหกล้มอยู่ตรงบันได ทำให้กลุ่มสต๊าฟและเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยตะครุบตัวทันและจับส่งเจ้าหน้าที่ตำรวจ

 

            และเมื่อสืบค้นไปที่ห้องพักก็เห็นรูปของฉันติดเต็มห้องพร้อมข้อความที่ขู่อาฆาตฉัน จึงทำให้นายต้นกล้าที่เพิ่งอายุครบ 18 ปีไปไม่นาน ไม่ใช่ผู้เยาว์อีกต่อไปและถูกดำเนินคดีตามกฎหมาย

 

            ส่วนซาตานที่ขระนี้กำลังอ่อนแอ หลังจากที่พลังของพี่สาวซาตี้เพิ่มขึ้นมากกว่าเดิมเพราะภารกิจที่สำเร็จ พี่สาวซาตี้จึงหายตัวไปที่ๆ ซาตานอยู่และสาปให้กลายเป็นแมลงสาบ ชดใช้กรรมต่อไป

 

            ส่วนสาเหตุที่ซาตานโกรธแค้นพี่สาวซาตี้มากก็เพราะ พี่สาวซาตี้ไม่ยอมรับความรักของซาตาน จึงทำให้ซาตานโกรธและอยากเอาชนะมาตลอด

 

            พอรู้เรื่องนี้ฉันก็พยายามมองพี่สาวหน้าซิ้ม ตัวอ้วนกลมคนนี้อยู่เสมอ ว่ามีความสวยตรงไหนขนาดซาตานยังมาหลงรัก

 

            มองอะไร! ไม่เคยเห็นคนสวยหรือ?พี่สาวซาตี้มองหน้าฉันพร้อมกินขนมอยู่ในมือ

 

            เอิ่มมม! ซาตานคงมีรสนิยมที่แปลกจริงๆ

 

            ส่วนยัยหลินและคุณคิมคิมก็มีชะตากรรมที่น่าสงสาร ยัยหลินหลังจากที่ท้องเสียบนเวทีในวันนั้น ก็โดนผู้คนล้อเลียนและบูลลี่เรื่องนี้ จนต้องหนีไปเรียนต่างประเทศและวางมือเรื่องวงการบันเทิง ส่วนคุณคิมคิมหลังจากทางค่ายเพลงรู้ว่าเป็นคนเชิญนักข่าวมาทำข่าวเสียๆหายๆของฉันแถมยังแอบไปจ้างนักแต่งเพลงชาวไทยมาแต่งเนื้อร้องให้ยัยหลินอีก ก็เลยโดนไล่ออกและดำเนินคดีตามมา นั่นยังไม่รวมกับค่าตัวนักข่าวที่ยัยหลินทิ้งไว้ให้ก่อนไปต่างประเทศอีกด้วยนะ

 

            ส่วนกลุ่มนักข่าวและกลุ่มคนที่บูลลี่ฉัน ทางค่ายจัดการให้ทนายจัดการเรื่องหมิ่นประมาทจนทุกคนต้องมาขอโทษและสัญญาจะไม่ทำอีก

 

 

            หมดแล้วล่ะ!

 

อะไรนะ! อยากรู้ว่าใครชนะในคืนนั้นหรือ โทดๆ ฉันเล่าข้ามไปหน่อย เดี๋ยวเล่าให้ฟังต่อนะ

 

ตอนที่พี่บุ๋มประกาศผลผู้ชนะจากคะแนนโหวต ปรากฏว่าคะแนนโหวตของฉันนั้นสูงที่สุด เพราะนอกจากเหล่าแฟนคลับของฤทธิ์ซ่าจะช่วยลงคะแนนแล้ว เหล่าแฟนคลับของศิลปินทั่วโลกก็ช่วยกันลงคะแนนให้เหมือนกัน จนคะแนนแซงโค้งสุดท้ายเป็นผู้ชนะ

 

แต่ฉันก็ไม่ได้รับรางวัลตามคะแนนโหวต

 

เพราะผู้เข้าแข่งขันคนอื่นๆ ต่างยื่นอุธรณ์แล้วบอกว่าฉันทำผิดกฎ เนื่องจากการแสดงสดจะให้ร้องเพลงคู่กับศิลปินที่มีชื่อเสียงเพียงแค่หนึ่งเพลง ที่เหลือต้องร้องแยกกันคนละเพลง จึงทำให้ต้องมีการประชุมด่วนและเปลี่ยนคำตัดสินกันวุ่นวาย

 

กลายเป็นผู้ชนะการประกวดในครั้งนี้ คือผู้เข้าประกวดที่ร้องเพลงคู่กับ เติ้น จินหง ศิลปินสาวชาวจีน แม้ชื่อของศิลปินสาวคนนี้อาจจะไม่เทียบเท่าศิลปินระดับโลกคนอื่น แต่พลังของแฟนคลับชาวจีนทั่วโลกก็มีมากพอที่จะช่วยลงคะแนนให้อยู่อันดับที่สองและกลายเป็นผู้ชนะ

 

ส่วนตัวฉันก็ไม่ได้เสียใจ เพราะการทำภารกิจสำเร็จและได้ร้องเพลงกับฤทธิ์ซ่า จากวง Black Link นั้น ถือเป็นที่สุดในชีวิตแล้ว

 

คืนนั้นฉันกลับไป โดยที่ไม่รู้เลยว่าเหล่ากรรมการกำลังวุ่นวายเรื่องแย่งตัวของฉันกันอยู่

 

“ในสัญญาระบุเพียงผู้ชนะเท่านั้นที่จะได้ทำสัญญาเป็นศิลปิน ดังนั้นน้องปอร์เช่ที่โดนตัดสิทธิ์จึงเป็นอิสระและเซ็นต์กับค่ายไหนก็ได้” กรรมการจากเกาหลีใต้เริ่มก่อน เพราะอยากได้ตัวฉันไปอยู่ในสังกัด จากนั้นความวุ่นวายก็เกิดขึ้นอีกหลายชั่วโมงจนได้ข้อยุติ

 

สรุปแล้วฉันจะต้องทำเพลงกับค่ายเพลงจากอเมริกา เพราะมีส่วนร่วมในงานนี้มากที่สุดโดยจะมีค่ายเพลงของพี่โอมดูแลร่วมด้วย

 

ด้วยเหตุผลนั้น จึงทำให้ฉันมาอยู่ที่นี่ “นครนิวยอร์ค ศูนย์กลางแห่งบริษัทบันเทิงของโลก

 

อันที่จริงมันก็ไม่ได้ราบเรียบตลอดตามที่เล่าหรอก เพราะมันยังมีเรื่องที่ฉันต้องดรอปเรียนเพื่อมาทำเพลงและเรื่องของพี่สาวซาตี้ที่ต้องจากกัน

 

“ภารกิจของเจ้าสำเร็จ พันธสัญญาของเราสองคนก็จบแล้วเช่นกัน ข้าคงต้องไปก่อน” พี่สาวซาตี้พูดกับฉัน ในวันที่จะต้องจากกัน

 

“พี่สาวซาตี้! ไม่ไปไม่ได้เหรอ อยู่ด้วยกันกับหนูก่อนนะ” ฉันร้องไห้แทบขาดใจ เหมือนกับกำลังสูญเสียอะไรที่สำคัญในชีวิต เมื่อพี่สาวซาตี้ได้บอกลา

 

ภาพความทรงจำต่างๆที่ผ่านมา มันทำให้ฉันรู้สึกว่าพี่สาวซาตี้เป็นเหมือนคนในครอบครัวไปแล้ว

 

“ยัยหนู! ช่วงเวลาที่อยู่กับเจ้าข้ามีความสุขมาก เจ้าต้องเข้มแข็งนะ” พี่สาวซาตี้บอกลาด้วยน้ำตาและก็ค่อยๆหายตัวไป

 

หลังจากนั้นฉันก็นั่งซึมไม่ออกไปไหน จนกระทั่งทางค่ายเพลงแจ้งเรื่องการเซ็นสัญญาที่อเมริกา ทำให้ตอนนี้ฉันไม่ได้นั่งเศร้าเพราะเรื่องของพี่สาวซาตี้แล้ว

 

สาเหตุไม่ใช่ว่าเพราะฉันลืมเรื่องของพี่สาวซาตี้หรอกนะ แต่ก็แค่........

 

“นี่น้ำครับ! พวกเราไปกันต่อเถอะ เดินไปอีกสองช่วงตึกก็ถึงค่ายเพลงแล้ว” พี่เจมส์ส่งแก้วน้ำให้ฉัน และพาเดินไปยังค่ายเพลงด้วยกัน

 

ไม่ต้องคิดเยอะ ฉันไม่ได้หนีตามผู้ชายมา เพียงแต่ทางค่ายเพลงก็สนใจในฝีมือการเล่นกีต้าร์ของพี่เจมส์เช่นกัน จึงติดต่อให้มาทำเพลงคู่กันกับฉัน เราสองคนเลยเดินทางมาที่นี่

 

“น้องปอร์เช่คิดว่ากลิ่นของดอกอาฮวนน่าจะเป็นแบบไหนครับ?” พี่เจมส์ถามฉันขณะที่เราสองคนเดินอยู่

 

“ก็น่าจะคล้ายกับดอกจำปีเพราะมีสีขาวเหมือนกัน แต่คงหอมแบบอ่อนๆ แล้วพี่เจมส์คิดว่า น่าจะหอมแบบไหนคะ?” ฉันถามต่อ

 

“พี่ว่าน่าจะหอมแบบนี้นะครับพี่เจมส์จับที่มือของฉันแล้วหยิบหล่องกระดาษใบเล็กๆใส่มาในมือ

 

“นี่มัน....!”

 

สบู่เบนเนทปาปายา! ที่หนูเคยให้พี่เจมส์นี่ฉันร้องอุทานเมื่อเห็นของที่อยู่ในมือ

“ใช่ครับ! นี่แหละกลิ่นอาฮวนของพี่ เวลาที่ได้กลิ่นทีไรก็จะคิดถึงน้องปอร์เช่ทุกที พี่คืนให้ก่อนนะครับ เผื่อที่นิวยอร์คอาจจะหาซื้อยาก พี่อยู่ใกล้ๆน้องปอร์เช่แบบนี้คงได้กลิ่นทุกวันอยู่แล้ว” พี่เจมส์ยิ้มให้ฉัน จนฉันหน้าแดงเพราะความเขิน และเดินตามพี่เจมส์เข้าสำนักงานของค่ายเพลงที่เป็นจุดหมาย

 

แหม! สบู่เบนเนทปาปาย่านี่ ของเค้าดีจริงๆ!  หอมไกลถึงนิวยอร์คกันเลยทีเดียว!

 

..................................

 

ในขณะที่ฉันและพี่เจมส์กำลังขึ้นลิฟท์ไปที่ชั้นสามสิบหก เสียงของเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยก็ดังขึ้น

 

“ขอดูบัตรด้วยครับ ไม่ทราบว่ามาติดต่อเรื่องอะไร?” เจ้าหน้าที่ถามผู้มาติดต่อที่สวมแว่นดำ

 

“เจนิเฟอร์จากค่ายเพลงประเทศไทยค่ะ! มาทำหน้าที่ผู้จัดการส่วนตัวของศิลปินใหม่ที่จะมาวันนี้ค่ะ!”

 

หญิงสาวที่มาติดต่อพูดนิ่งๆ พลางถอดแว่นให้เจ้าหน้าที่เห็นหน้าซิ้มหมวยขาว ที่ฉันเห็นแล้วอาจต้องตกใจเพราะใบหน้านี้ก็คือ....พี่สาวซาตี้นั่นเอง!

 

 

“ยัยหนู! ข้าลาพักร้อนมาอยู่เป็นเพื่อนเจ้าแล้วนะ! ทีนี้เจ้าคงไม่เหงาแล้ว หุหุ!

 

.................................................................

 

จบบริบูรณ์

.............................

*ขอบคุณทุกท่านที่ติดตาม Bennett Love Story กับ 6 นิยายรักของสบู่เบนเนทด้วยนะคะ

 

และสามารถติดตามนิยายได้ทางช่องทางต่อไปนี้

fictionlog  : http://bit.ly/3r9Jmip

tunwalai : http://bit.ly/2MpkX9L

dek-d : http://bit.ly/3tfRPCs

joylada : http://bit.ly/2MCF1W2

readawrite : https://bit.ly/3rGr7Rm

 

...............................

นิยายเรื่อง “สวัสดี...กลิ่นฤดูแห่งความรัก” สนับสนุนโดย

สบู่สมุนไพรกลั่น เบนเนทสูตรปาปาย่า

อะไรดี..บุ๋มก็ว่าดี....”

“สบู่เบนเนท ยอดขายอันดับ 1 ติดต่อกัน 6 ปีซ้อน”

.................................................

เตรียมพบกับนิยายรักเรื่องใหม่จาก Bennett Love Story

เริ่มวันที่ 2 เมษายน 2564

 

“ย้อนอดีต...เพื่อตามหาแม่ของลูก”

นิยายรักแนวโรแมนติค คอเมดี้ เป็นเรื่องราวของชายหนุ่มคนหนึ่ง

 ที่ต้องย้อนอดีตไปพร้อมวิญญาณของลูกสาวที่ไม่ได้เกิดเสียที เพราะเขาเลือกคู่ครองผิดคน