ความรัก...ชั่วพริบตา
ตอนที่ 4 เชื่อหัวใจหรือเชื่อสมอง
หลายวันมานี้ฉันพยายามฝึกน้องหมาของฉันด้วยคลิปในโซเชียลที่ลงวิธีสอนไว้อย่างละเอียด ซึ่งฉันได้ตั้งชื่อมันว่า “ข้าวตู”
 
“เจ้าข้าวตู” เป็นหมาพันธ์บีเกิล ลายน้ำตาลขาวและมีแซมดำ ดูเป็นหมาที่ฉลาดแต่กวนโอ๊ยเป็นอย่างยิ่ง
 
ฉันเคยสั่งให้มันรอตอนกินอาหาร โดยใส่อาหารไว้ในชามแต่ยังไม่ให้กิน ตามวิธีที่ครูฝึกลงคลิปสอน ซึ่งมันก็ทำตามได้อย่างรวดเร็ว แต่พอฉันละสายตาเพื่อไปรับโทรศัพท์เท่านั้นแหละ
 
อาหารในชามก็หายไปแล้วอย่างหมดจด
 
แถมเจ้าข้าวตูยังทำท่านั่งรอเหมือนเดิม เหมือนไม่รับรู้ว่าอาหารในชามหายไปไหน
 
หรือฉันควรใช้ชื่อเดิมที่ดวงดาวแนะนำมาก่อนหน้านั้น
 
ไม่ดีกว่า! ชื่อนั้นมันดูหมิ่นเหม่เกินไป มันอาจสอนง่ายและเชื่อฟัง แต่ตัวฉันอาจจะไม่ได้อยู่ใช้ชีวิต
 
ว่าแล้วฉันก็เลิกสนใจเจ้าข้าวตู หันมาทำงานก่อนดีกว่า
 
เพราะใกล้เวลา...ที่จะดูดวงให้ลูกค้าทางออนไลน์แล้ว
 
.........................
 
ตั้งแต่ทำอาชีพหมอดู ฉันก็รู้ว่าคนเราอยากดูดวงเพราะเรื่องแค่ไม่กี่เรื่อง
 
ความรัก การงาน การเงิน โชคลาภ สุขภาพและของหรือผู้คนที่หายสาบสูญ
 
โดยเพศหญิงจะเป็นเพศที่ชอบดูดวงมากกว่าเพศชาย
 
ลุกค้าของฉันวันนี้เป็นหญิงสาวอายุประมาณสามสิบปี เจ้าของธุรกิจที่มีความมั่นใจสูง แต่ลึกๆแล้ว เธอก็ไม่ได้มั่นใจทุกอย่าง จึงชอบมาดูดวง
 
“สวัสดีค่ะ แม่หมอ ดิฉันชื่อนางสาว มนตรา อภิรชญามหาตมศรีอริยา เกิดวันที่ 21 มิถุนายน พ.ศ. 2534 เวลาตกฟาก 06.00 น. สูง 169 หนัก 59 สัดส่วน 33 25 34 ค่ะ” ลูกค้าของฉันแนะนำตัวรวดเดียวเหมือนนางงาม นี่ถ้าบอกจังหวัดด้วยละก็ ฉันคงโหวตให้เธอไปแล้ว
 
“คุณมนตราเลือกแพคเกจ A ระยะเวลาที่สามารถถามได้คือสามนาที และได้ชำระค่าธรรมเนียมมาเรียบร้อย เรื่องที่อยากทราบมากที่สุดคือเรื่องความรัก ข้อมูลนี้ถูกต้องไหมคะ?”ฉันทวนข้อมูลอีกครั้งเพื่อความมั่นใจ ตามที่ลูกค้าได้ลงทะเบียนไว้ เพื่อไม่ให้เกิดข้อผิดพลาด
 
สมัยนี้แล้วเราก็ควรใช้เทคโนยีเพื่อเก็บข้อมูลลูกค้าบ้าง
 
เมื่อลูกค้ายอมรับและไม่โต้แย้ง ฉันจึงเริ่มทำการทำนายทันที!
 
ฉันนั่งหลับตาและเริ่มส่งกระแสจิตเรียกดวงดาวของเธอ เมื่อดวงดาวของเธอทำการติดต่อมา เราก็เริ่มดิวเรื่องระยะเวลาการทำงานกับของเซ่นไหว้ตอบแทน
 
เราทุกคนมีดวงดาวประจำตัวที่คอยดูแลอยู่หรือที่คนโบราณเรียกว่าแม่ซื้อ บ้างก็เรียกว่าเทวดาประจำตัว ดวงดาวเหล่านี้จะคอยดูแลเราตั้งแต่เกิดจนตาย และมองชีวิตเราเหมือนเป็นความบันเทิงอย่างหนึ่ง
 
ซึ่งชีวิตของเราจะเป็นอย่างไร...ก็ขึ้นอยู่กับว่าดวงดาวเหล่านี้จะช่วยเราแค่ไหน
 
ดวงดาวบางดวงชอบเรื่องสมหวัง ก็จะดลบันดาลสิ่งดีๆ มาให้ มนุษย์ที่ตัวเองดูแลอยู่
 
ดวงดาวบางดวงชอบละครน้ำเน่า ชีวิตของคุณก็อาจรันทดหน่อย
 
ซึ่งผู้ที่ใช้ศาสตร์ “ดาราพยากรณ์” แม้จะสื่อสารกับดวงดาวเหล่านั้นได้ แต่ต้องมีของเซ่นไหว้แลกเปลี่ยนตามความต้องการของดวงดาวแต่ละดวง
 
บ้างก็ต้องการของพื้น ๆ ทั่วไป แต่มีไม่น้อยที่ต้องการของแปลก ๆ ขึ้นอยู่กับรสนิยมของดวงดาวนั้น ๆ
 
“ข้าต้องการหนังสือบทกวีของ คาริล ยิปซี” ดวงดาวของลูกค้าเสนอของที่เธอต้องการ
 
วันนี้เจอดวงดาวที่รสนิยมแปลกจริง ๆ
 
“รับเป็นแบบรูปเล่นหรืออีบุ๊ค ฉันจะได้ส่งถูก” ฉันถามรายละเอียดเพิ่มเติม
 
“เอาแบบรูปเล่ม ข้าชอบความคลาสสิค” ดวงดาวตอบกลับ จากนั้นเราก็ตกลงเซ็นต์สัญญาร่วมงานกัน
 
แม้จะดูเหมือนว่าคุยกันนาน แต่เวลาจริงบนโลกนั้น ผ่านไปเพียงแค่ชั่วพริบตา
 
ตอนนี้ตัวของฉันเริ่มสั่นเทิ้มและเปลี่ยนบุคลิกเป็นเหมือนนักปราชญ์
 
ได้เวลาเริ่มพยากรณ์แล้ว
 
“เด็กน้อยเอ๋ย...ข้าเฝ้าดูเจ้ามาตั้งแต่เกิด และเป็นคนคอยสร้างโอกาสให้เจ้าพบเจอเนื้อคู่มากมายเอง แต่เจ้าไม่เคยเลือก ครั้งนี้เจ้าจะมาถามถึงชายคนล่าสุดที่เพิ่งได้พบใช่หรือไม่?” ตัวฉันที่ตอนนี้พูดเหมือนนักปราชญ์ ช้าเนิบ ๆ แต่น่าเลื่อมใส
 
“หากท่านคือดวงดาวของหนูจริง ช่วยชี้แนะให้ด้วยเถิดว่าหนูควรทำอย่างไรกับหัวใจตัวเอง” ลูกค้าสาวถามในสิ่งที่อยากรู้
 
“หัวใจของเจ้ารู้สึกอย่างไร ก็ทำไปตามนั้น ใยต้องคิดหาเหตุผลมากมาย แล้วก็มานั่งเสียใจ ” ดวงดาวในร่างฉันตอบกลับไป
 
ทุกครั้งที่เป็นสื่อกลางให้ดวงดาว ฉันรู้สึกตัวและรับรู้เรื่องราวโดยตลอดแต่ไม่สามารถพูดได้ หนำซ้ำภาพชีวิตของคนที่มาดูดวง ก็จะผ่านเข้ามาในความทรงจำของฉันตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน
 
ทำให้ฉันเข้าใจชะตากรรมของผู้ที่มาดูดวงอย่างชัดเจน
 
ลูกค้าสาวคนนี้มีจิตใจที่อ่อนไหว แต่ต้องทำตัวมั่นใจต่อหน้าคนอื่นด้วยหน้าที่การงาน ยิ่งเธอประสบความสำเร็จมากเท่าไหร่ ก็จะพยายามวิเคราะห์หาเหตุผลในการเลือกใครสักคนเป็นแฟนอย่างมาก เพราะไม่อยากผิดหวัง
 
จนไม่เคย...มีแฟนเลย
 
แต่สำหรับผู้ชายคนล่าสุด เขาเป็นคนที่หน้าตาและฐานะธรรมดา เพียงแค่เจอกันครั้งแรก เธอก็ชอบเขาทันที โดยไม่มีเหตุผล
 
“แต่เขาเป็นผู้ชายที่ธรรมดามาก ๆ  หนูกลัวว่าเค้าจะไม่เหมาะกับหนู” ลูกค้าสาวเปิดเผยความในใจออกมา
 
“คำว่าเหมาะสมนั้นใครเป็นคนตัดสิน ความสุขของเจ้าควรขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของเจ้า มิใช่จากลมปากคนอื่น ข้าดีใจที่เจ้าประสบความสำเร็จ แต่ก็อยากให้เจ้ามีความรักที่สวยงามเช่นกัน”
 
หลังจากนั้นทั้งคู่ก็คุยกันอีกไม่กี่ประโยคจนหมดเวลา
 
“ขอบคุณค่ะ ขอบคุณจริงๆ” ลูกค้าสาวนั่งร้องไห้พร้อมขอบคุณ ขณะที่ดวงดาวของเอออกจาร่างของฉันไปแล้ว
 
.............................
 
"เราจะรักใครสักคนโดยไม่ต้องมีเหตุผลได้หรือไม่?"
 
ประโยคคำถามนี้ติดอยู่ในใจของฉันตลอดหลังจากดูดวงครั้งนี้จบลง
 
หัวใจคิดไม่เป็นแต่รู้สึกได้ ส่วนสมองคิดวิเคราะห์ด้วยเหตุผล....จนลืมความรู้สึกของตัวเอง
 
จะเชื่อหัวใจหรือสมอง...ก็คงต้องขึ้นอยู่กับความชอบของแต่ละคน
 
เพราะความรัก...ไม่มีรูปแบบที่ตายตัว
 
.........................
ตอนต่อไป
ตอนที่ 5 เรื่องใหญ่ระดับภัยพิบัติ