ความรัก...ชั่วพริบตา
ตอนที่ 5 เรื่องใหญ่ระดับภัยพิบัติ
“เมย์เกิดเรื่องใหญ่แล้ว!” ฉันโทรหายัยเมย์ด้วยน้ำเสียงที่ตกใจ ในเช้าวันหนึ่ง
 
“ใจเย็น ๆ!  มีใครเป็นอะไร?” ยัยเมย์รับสายแล้วก็ตกใจตาม
 
“ฉัน!...ฉัน!.....” ฉันตกใจมากจนพูดติดอ่าง
 
“แกเป็นอะไร! ใจเย็น ๆ รออยู่ที่บ้านก่อนนะ เดี๋ยวฉันจะรีบไป!” ยัยเมย์รีบวางหู แล้วรีบขับรถมาหาฉันทันที
 
.........................
 
“อะไรนะ! นี่มันเรื่องจริงหรือนี่! แกโทรคุยกับหมอขวัญหรือยัง?” ยัยเมย์อ้าปากค้าง เมื่อได้ฟังเรื่องที่ฉันเล่า
 
“โทรแล้ว คุณหมอบอกว่าให้ฉันรีบไปหาทันทีเลย!” ฉันบอกยัยเมย์
 
จากนั้นเราสองคนก็รีบออกจากบ้าน แล้วปล่อยให้เจ้าข้าวตู หมาน้อยของฉันเฝ้าบ้านอยู่ตัวเดียว
 
.........................
 
“หมอตรวจร่างกายกับระดับฮอร์โมนแล้วนะ ทุกอย่างไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง แต่คุณทับทิมช่วยเล่ารายละเอียดวันนั้นให้หมอฟังหน่อยได้ไหมคะ” หมอขวัญอยากให้ฉันเล่าเรื่องราว ที่เป็นต้นเหตุของความวุ่นวายนี้
 
ฉันรำลึกย้อนหลังไปถึงวันเกิดเหตุเมื่อวานและเล่าให้คุณหมอฟังอย่างละเอียด
 
เมื่อวานตอนเช้า หลังจากที่ฉันลองฝึกเจ้าข้าวตูอยู่นาน ก็เลยอยากทดสอบว่าเจ้าหมาน้อยของฉันจะสามารถนำทางฉันไปที่ต่าง ๆ ได้หรือไม่
 
เหมือนกับในหนัง ที่มีหมานำทางคนตาบอด
 
นี่คือวัตถุประสงค์ที่ฉันรับเจ้านี่มาเลี้ยงและตั้งใจฝึกอย่างเอาเป็นเอาตาย
 
เพราะฉันก็อยากออกไปซื้อของใกล้ๆบ้าง โดยไม่ต้องมองเห็นผู้ชาย
 
“ข้าวตูแกจำแผนที่ร้านได้แล้วนะ ห่างจากบ้านประมาณร้อยก้าว ถ้าทำได้ดี กลับมาเดี๋ยวแม่จะให้เนื้ออย่างดีเป็นรางวัล” ฉันพูดกับข้าวตูเหมือนพูดกับเด็กน้อยคนหนึ่ง
 
มันน่าจะเข้าใจที่ฉันพูด เพราะนั่งน้ำลายไหลยืดเหมือนคิดถึงความโอชะของเนื้อที่เป็นรางวัล พร้อมทำท่าตะเบ๊ะเหมือนกำลังรับคำสั่งอีกด้วย
 
นี่มันจะฉลาดเกินไปแล้วนะนี่!
 
ส่วนฉันก็สวมแว่นตาดำ แต่หลับตาเพื่อไม่ให้เห็นผู้ชายในเช้าวันนี้ เพราะไม่อยากให้โรคตกหลุมรักของฉันสร้างปัญหาขึ้นมาอีก
 
ภารกิจแรกของหนึ่งคนหนึ่งหมาก็เริ่มขึ้น!
 
ต้องขอเสียงกลองรัวซะหน่อยแล้ว ตึก ๆ ๆ ๆ หน้า.....เดิน!
 
โป๊ก! อู๊ยยย!
 
เสียงหัวของฉันชนเสาประตูรั้วบ้านดังลั่น เมื่อฉันพยายามเดินตามข้าวตู เพราะมันไม่ยอมออกทางประตู แต่ดันมุดรั้วออกมา!
 
“ข้าวตู แกต้องออกทางประตู แม่มุดไม่ได้แบบแก เข้าใจไหม!” ฉันสอนข้าวตูอีกรอบจนมันนั่งหงอยแล้วก็ผงกหัวหงึก ๆ ว่าเข้าใจแล้ว
 
ก่อนจะทำท่าตะเบ๊ะ เพื่อพร้อมจะแก้ตัวอีกครั้ง
 
เอาล่ะ ภารกิจรอบที่สอง เริ่มได้!
 
ข้าวตูพาฉันเดินออกจากประตูอย่างช้า ๆ เมื่อฉันเดินพ้นประตูแล้ว มันก็วิ่งเหยาะ ๆ มาปิดประตูให้เรียบร้อยอีกด้วย
 
“ดีมาก! แต่แกลืมล็อคประตูรั้ว ต้องโดนหักคะแนน โว โฮ่ โฮ่!” ฉันแจ้งผลการปฏิบัติ
 
ข้าวตูทำหน้าตกใจที่รู้ว่าตัวเองทำพลาด มันตะเบ๊ะอีกครั้ง แล้วตั้งใจนำทางเพื่อแก้ตัว
 
มันค่อย ๆ เดินนำทางช้า ๆ เพื่อให้ฉันรักษาจังหวะ
 
ทันใดนั้น! ข้าวตูก็เห่าขึ้น
 
“โฮ่งๆ” มันเห่าสองครั้งส่งสัญญาณให้ฉันหยุด
 
ฉันรีบหยุด แล้วหรี่ตามองที่พื้น ข้าวตูหันกลับมารายงานด้วยการทำท่าขี่จักรยานให้ฉันดู
 
อ้อ! มีคนขี่จักรยานตัดหน้านี่เอง!
 
“ใช้ได้นี่พลทหาร ปฏิบัติภารกิจต่อได้!” ฉันสั่งข้าวตูให้ทำหน้าที่ต่อ มันตะเบ๊ะ แล้วกลับไปนำทางต่อ
 
แม้ร้านค้าจะอยู่จากบ้านของฉันไปแค่ไม่กี่นาที แต่การนำทางครั้งแรกของข้าวตู ทำให้ฉันให้เวลาเกือบยี่สิบนาที
 
และแล้วข้าวตูก็เห่าครั้งเดียว จากนั้นก็นอนหมอบ
“โฮ่ง!”
 
ถือเป็นการส่งสัญญาณว่าตอนนี้ ได้พาฉันมาถึงที่หมายเรียบร้อยแล้ว
 
ฉันค่อย ๆ เหล่ตาไล่จากพื้น เพื่อดูว่าเจ้าข้าวตูพาฉันมาถูกที่หรือเปล่า ขณะเดียวกันก็เพื่อระวังไม่ให้เห็นหน้าผู้ชายด้วย
 
เมื่อสำรวจพื้นที่รอบ ๆ อย่างระมัดระวังแล้ว ก็สรุปได้ว่า เจ้าข้าวตูทำสำเร็จ!
 
“เก่งมากพลทหาร ถ้าขากลับทำได้แบบนี้ แม่จะตบรางวัลให้อย่างงาม” ฉันมองไปที่ข้าวตูแล้วยกนิ้วโป้งให้
 
“โฮ่ง” ข้าวตูเห่าเหมือนขานรับคำพูดของฉัน ก่อนนอนหมอบน้ำลายยืดเพราะคิดถึงเนื้อที่จะได้เป็นรางวัล
 
.........................
 
ร้านขายของชำร้านนี้เป็นของหญิงชราเชื้อสายจีนคนหนึ่ง ที่ไม่มีใครรู้จักชื่อจริง แต่เรียกแกว่า “อาม่า” แทน
 
“อาม่าซื้อของหน่อย!” ฉันตะโกนเรียกอาม่า เพราะแกชอบนอนดูโทรทัศน์อยู่ในร้าน
 
“อาม่าไม่อยู่ครับ ไม่รู้ไปไหน ผมก็ตะโกนเรียกแกตั้งนานแล้วเหมือนกัน” เสียงชายหนุ่มข้าง ๆ ดังขึ้น ทำเอาฉันต้องหันไปมองตามสัญชาตญาณ
 
“แกคงหลับมั้งคะ สงสัยจะดูละครดึก” ฉันหันไปคุยกับชายหนุ่มข้าง ๆ อย่างลืมตัว
 
ทันใดนั้น! ฉันก็ตกใจ เพราะนึกบางอย่างขึ้นได้....
 
“เชร๊ดด! งานเข้าอีกแล้ว ซวยแล้วไง!”
 
.................................
ตอนต่อไป
ตอนที่ 6 ผู้ชายที่ฉันตกหลุมรัก...แล้วไม่ลืม