ความรัก...ชั่วพริบตา
ตอนที่ 6 ผู้ชายที่ฉันตกหลุมรัก...แล้วไม่ลืม
คงไม่ต้องบอกว่าเมื่อฉันเห็นหน้าผู้ชายคนแรกในวันนั้นจะเป็นอย่างไร
 
“รูปหล่อ! มาซื้อของหรือ ขอเบอร์หน่อยได้ไหมคะ ครั้งหน้าเราจะได้มาซื้อของที่ร้านอาม่าพร้อมกัน” นั่นไงอาการโรคตกหลุมรัก รุนแรงระยะสั้นของฉันกำเริบอีกแล้ว
 
อาการนี้กำเริบทีไร ฉันก็จะมองผู้ชายคนนั้นเป็นคนหล่อ แม้ว่าชีวิตจริงอาจจะขี้เหร่ก็ตาม
 
“เอ่อ! คุณไปอะไรหรือเปล่าทำไมท่าทางแปลก ๆ ” ชายหนุ่มคนนั้นตกใจ เมื่อเห็นฉันมีท่าทางเหมือนเมายา
 
“ไม่เป็นไรค่ะ เพียงแต่ตอนนี้คอแห้ง เราไปหาร้านกาแฟแถวนี้ แล้วสั่งอะไรมากินกันดีไหมคะ จะได้ทำความรู้จักกันด้วย” ฉันส่งสายตาหวานหยาดเยิ้มให้ชายหนุ่มเบื้องหน้า
 
“ไม่เป็นไรครับ ผมมีงานต่อ ขอตัวนะครับ” ชายหนุ่มปฏิเสธฉัน แล้วหันหลังกลับไปที่รถมอเตอร์ไซค์ของเขาที่มีโลโก้ของบริษัทเดลิเวอรี่เจ้าหนึ่ง ก่อนสวมหมวกกันน็อคแล้วสตาร์ทรถหนีไปทันที
 
ส่วนตัวฉันนั้นหรือ เมื่อรั้งชายหนุ่มไว้ไม่ได้ ก็พยายามวิ่งตาม แต่ก็สู้ความเร็วของรถมอเตอร์ไซค์ไม่ได้ จึงอุ้มเจ้าข้าวตูแล้วโบกแท็กซี่ทันที!
 
เอี๊ยด!
 
 “พี่ตามรถมอเตอร์ไซค์ข้างหน้าไปเลย เค้าขโมยของค่ะพี่” ฉันเปิดประตูรถแล้วออกคำสั่งกับคนขับทันที
 
“ได้เลยครับ สมัยนี้มิจฉาชีพเยอะจริง ๆ เดี๋ยวผมจัดการตามตัวให้ครับ” คนขับแท็กซี่รับคำ แล้วเหยียบคันเร่งมิดทันที
 
แม้มอเตอร์ไซค์ของชายหนุ่มจะซอกแซกและทิ้งห่าง แต่พี่คนขับก็โชว์สกิลการขับที่เหนือชั้น ทั้งปาดซ้ายแซงขวา แถมยังมีการดริฟท์โชว์เหมือนหนังแอคชั่นในฉากไล่ล่าที่ฉันเคยดู
 
ตอนนี้รถแท็กซี่กวดไล่รถมอเตอร์ไซค์ข้างหน้าทันแล้ว ห่างกันอยู่แค่ไม่กี่เมตร พร้อมด้วยด้านหลังที่ตามมาด้วยรถตำรวจหลายคัน
 
“นั่งดีๆ นะครับ เดี๋ยวผมจะเร่งแซง แล้วปาดหน้าบังคับให้มอเตอร์ไซค์จอดให้ได้” พี่คนขับฉีกแซงขวา เร่งเครื่องมากขึ้น...มากขึ้น....มากขึ้น.........
 
และแล้ว!...รถมอร์เตอร์ไซค์เป้าหมายก็เร่งแซงหายไป
 
“โถ่พี่! อีกนิดเดียวเอง แล้วพี่จอดทำไมล่ะ กำลังจะแซงแล้วปาดหน้าได้อยู่แล้ว!” ฉันถามพี่คนขับที่ตอนนี้จอดรถอยู่ข้างทางและทำท่าเหมือนหมดเรี่ยวแรงจากการขับรถ
 
“แก็สหมดน่ะครับ!” พี่คนขับตอบและยิ้มแห้ง ๆ
 
ฉันทำหน้าเซ็งก่อนจ่ายค่ารถ แล้วเรียกรถคันใหม่ เมื่อได้รถคันใหม่แล้วพี่คนขับคันเดิมก็ตะโกนถามมาว่า
 
“น้องครับ! คนขับรถมอเตอร์ไซค์เมื่อกี้ ขโมยของอะไรไปครับ น้องไปแจ้งตำรวจก่อนได้เลยนะ”
 
ฉันเห็นความทุ่มเทและใส่ใจของพี่คนขับมาก จึงตะโกนตอบกลับไปว่า
 
“ขอบคุณค่ะ! คงไม่ต้องถึงตำรวจหรอก เพราะเค้าแค่ขโมยหัวใจของหนูไปค่ะ!”
 
“.............” คนขับแท๊กซี่
 
...............................
 
“แล้วหลังจากนั้น คุณทับทิมทำอย่างไรต่อคะ?” หมอขวัญถามฉันต่อ ขณะที่นั่งฟังพร้อมยัยเมย์อย่างลุ้นระทึกเหมือนกำลังขาดช่วง
 
“หนูก็กลับบ้าน แล้วโทรสั่งอาหารจากแอพเดลิเวอร์รี่เจ้านั้นทุกชั่วโมง เผื่อจะได้เจอกับผู้ชายคนนั้นค่ะ แต่แล้ว....ก็ไม่เจอ” ฉันเล่าพลางนึกถึงอาหารกองใหญ่เหมือนเนินเขา ที่ตั้งอยู่ในบ้าน
 
“จนกระทั่งถึงตอนเช้า ที่ปกติแล้วความรู้สึกตกหลุมรักต้องหายไป แต่ตอนนี้หนูยังรู้สึกกับผู้ชายคนนี้เหมือนเดิมและยังจำเค้าได้ค่ะ ก็เลยโทรหาคุณหมอกับเมย์นี่แหละค่ะ” ฉันเล่าเรื่องทั้งหมดเรียบร้อย
 
“นี่ถือว่าเป็นข่าวที่ดีนะคะ แสดงว่าการรักษาเริ่มจะดีขึ้น แต่หมอขอทดสอบอะไรบางอย่างอีกนิดนะคะ เพื่อจะได้ประเมินการรักษาได้แม่นยำขึ้น” หมอขวัญพูดขึ้น
 
แล้วเริ่ม...การทดสอบ!
 
หมอขวัญเริ่มให้ผู้ชายเข้ามาในห้อง ก่อนพาฉันไปรอบ ๆ โรงพยาบาลเพื่อเจอกับผู้ชายคนอื่นๆ ซึ่งผลสรุปว่า....
 
ฉันยังคนหลงรักผู้ชายคนเมื่อวานเหมือนเดิม และจำทุกอย่างได้อย่างแม่นยำ
 
“แม้หมอจะไม่รู้ว่าอาการตกหลุมรักครั้งนี้จะอยู่ได้กี่วัน แต่ก็ขอแสดงความยินดีด้วยนะคะ ที่ตอนนี้คุณทับทิมจะสามารถใช้ชีวิตในสังคมปกติได้แล้ว เพียงแต่ขอให้ระวังช่วงแรก ๆ ก่อน เพราะเราไม่รู้ว่าอาการตกหลุมรักนี้จะกลับมาใหม่อีกหรือไม่”
 
“ส่วนการหลงรักผู้ชายคนเมื่อวาน เดี๋ยวหมอจะช่วยบำบัดอีกครั้งหนึ่ง หลังจากที่วินิจฉัยโรคเก่าให้หายเรียบร้อยก่อนนะคะ ” หมอขวัญผู้ซึ่งมองเรื่องความรักเป็นฮอร์โมนชนิดหนึ่ง บอกข่าวดีกับฉัน
 
เย็นวันนั้น! เป็นครั้งแรกที่ฉันสามารถกลับมาใช้ชีวิตปกติได้เหมือนคนทั่วไป ฉันสามารถไปเที่ยวในสถานที่ต่าง ๆ ที่มีผู้คนได้ อย่างไม่ต้องกลัวอีกต่อไป
 
ความสุขในการใช้ชีวิต...กลับมาอีกครั้งหนึ่ง
 
ยกเว้นก็แต่.....
 
“เมย์แกว่าถ้าฉันเลิกหลงรักผู้ชายคนนี้ แล้วอาการเดิมกลับมา ฉันควรจะทำอย่างไรดีวะ?”  ฉันพูดกับยัยเมย์เพื่อนซี้
 
“ฉันก็ไม่รู้ว่ะ! ว่าควรปล่อยให้แกหลงรักผู้ชายคนนี้เหมือนเดิม หรือควรให้แกกลับมาเป็นอย่างเดิมดี แต่อย่างน้อยช่วงนี้ แกก็ยังได้กลับมาใช้ชีวิตเหมือนเดิมนะ” ยัยเมย์พูดตอบ
 
ใช่แล้ว! ตอนนี้....ฉันยังหลงรักผู้ชายคนหนึ่งอยู่ ทั้งที่ไม่รู้จักชื่อหรือที่อยู่ของเขา แถมยังไม่รู้ว่าเมื่อไหร่.....ความรู้สึกนี้มันจะหายไป
 
“บางทีการหลงรักใครสักคน ที่นานมากกว่าหนึ่งวัน...ก็ทำให้ฉันรู้สึกมีคุณค่าขึ้นนะ แม้รู้ว่ามันอาจจะไม่ใช่ความรู้สึกที่แท้จริงก็ตาม” ฉันพูดขณะที่นั่งมองผู้คนมากมายเดินผ่านหน้าร้านกาแฟ หลายคนที่เดินผ่านเป็นคู่รักที่กำลังมีความสุข
 
ทำให้ฉันอดคิดไม่ได้ว่า...
 
ถ้าฉันเป็นหนึ่งในคู่รักเหล่านี้ ชีวิตของฉันจะมีความสุขมากขนาดไหน?
 
......................
เช้าวันรุ่งขึ้น ฉันก็โทรหายัยเมย์แต่เช้า
 
“ฮัลโล! เมย์แกตื่นหรือยัง?”
 
“ตื่นตอนแกโทรนี่แหละ! วันนี้แกยังหลงรักผู้ชายคนนั้นอยู่ไหม หรือหายไปแล้ว?”
 
“ยังรู้สึกเหมือนเดิม เมย์! ฉันตัดสินใจได้เรื่องหนึ่งแล้วล่ะ!”
 
“แกตัดสินใจเรื่องอะไร อยากไปเที่ยวตอนนี้เหรอ ก็ดีนะ แกไม่ได้ไปเที่ยวข้างนอกมาหลายปีแล้ว” ยัยเมย์ตอบกลับ
 
“ฉันไม่ได้อยากเที่ยว! แต่ฉันตัดสินใจแล้วว่า....”
 
“ฉันจะตามหาตัวผู้ชายคนนั้น! และอยากคบผู้ชายคนนั้นเป็นแฟน”
 
“หา!...แกว่าไงนะ!!!!” ยัยเมย์ตกใจกับการตัดสินใจของฉัน
 
...................
ตอนต่อไป
ตอนที่ 7 นอกจากใบหน้า ฉันก็ไม่รู้เรื่องของเขา