ความรัก...ชั่วพริบตา
ตอนที่ 13 หนีไปแบบนางเอก..ไม่ใช่สไตล์ฉัน
"เกิดอะไรขึ้นทับทิม! แกเป็นอะไร?" ยัยเมย์ถามฉันเมื่อเห็นถุงผลไม้หล่นลงพื้น
 
“ไม่เป็นไร! ฉันแค่เห็นนายภูผานั่นกำลังกอดผู้หญิงอยู่ที่ลานจอดรถ” ฉันบอกยัยเมย์
 
“หา! .ไหนบอกนายคนนั้นไม่มีแฟนไง แล้วแกจะทำยังไง” ยัยเมย์ถามต่อ
 
“ฉันก็คงต้องไปแสดงตัวกันหน่อย อย่างน้อยถ้ากลับตอนนี้ มันก็ไม่ใช่ฉัน” ฉันบอกยัยเมย์ที่กำลังเก็บผลไม้อยู่
 
.......................
 
“ขอบคุณพี่ภูผามากนะคะ ที่ช่วยพยุงเหมือนฝันไว้ทัน ไม่งั้นคงต้องล้มแน่เลย” เหมือนฝันขอบคุณภูผา ตอนนี้สีหน้าของเธอเป็นสีแดงเรื่อ ๆ หลังจากที่ถูกภูผาพยุงตัวไว้
 
“น้องน่าจะยังไม่ชินกับการนั่งมอเตอร์ไซค์นานๆ ครั้งหน้าถ้าเดินทางไกล นั่งรถเก๋งดีกว่านะครับ” ภูผาพูดสั้น ๆ ก่อนเดินนำไปที่ห้องผู้ป่วย
 
อันที่จริงแล้ว! เรื่องไม่ได้มีอะไรซับซ้อน แค่หลังจากที่ทั้งสองมาถึงลานจอด ตอนที่เหมือนฝันก้าวขาลงจากรถมอเตอร์ไซค์แล้ว นางก็แกล้งเสียหลัก ทำท่าจะล้ม เมื่อภูผาเห็นก็เลยเข้าไปช่วยพยุงตัวไม่ให้ล้มแค่นั้น
 
แหม! อ่อยผู้...ได้ลุคนางเอกมากจริง ๆ แต่ก็นั่นแหละด้วยมุมที่ฉันเห็นมันเหมือนกับการกอดกัน
 
อันที่จริงฉันก็ไม่มีสิทธิ์ไปก้าวก่ายเรื่องส่วนตัวของนายภูผาหรอก แต่ใครใช้ให้ฉันได้มีดอกาสได้เห็นเรื่องราวในอดีตของยัยเหมือนฝันล่ะ!
 
เพราะมันทำให้ฉันรู้ว่า...ยัยเหมือนฝันที่ดูเหมือนนางเอก ที่จริงแล้วก็ร้ายลึกเหมือนกัน
 
อะไรนะ!...หาว่าฉันหึงเหรอ หุหุ! เรื่องนั้นมันก็มีส่วนบ้างนิดหน่อย ฮ่าๆๆ
 
ฉันกับยัยเมย์ นั่งรออยู่ที่หน้าห้องผู้ป่วย ไม่นานนายภูผากับเหมือนฝันก็เดินเข้ามา
 
“ทับทิมมาถึงนานแล้วเหรอ แล้วนี่...?” นายภูผาทักทายฉันแล้วถามถึงยัยเมย์
 
“มานานแล้ว...เรามาหาหมอด้วย แล้วนี่ก็เมย์เพื่อนเรา” ฉันตอบภูผาแล้วแนะนำยัยเมย์ ที่ตอนนี้ทำท่าเคลิบเคลิ้มกับความหล่อของผู้ชายตรงหน้า
 
“โอ้ว! หล่อ โอปป้ามากๆ ชื่อเมย์นะคะ ตอนนี้โสดค่ะ” ยัยเมย์ส่งตาหวานให้ภูผา แหม! ยัยเพื่อนคนนี้ไม่หวงเนื้อหวงตัวเลยจริง ๆ
 
ฉันมองภาพยัยเมย์อย่างเซ็ง ๆ จนต้องเอาเท้าสะกิดขาเพื่อนรัก เพื่อเรียกสติสักหน่อย
 
“ยัยเมย์! ของฉัน ๆ” ฉันแอบกระซิบข้างหูเพิ่ม จนยัยเมย์ได้สติ
 
“โทษที! ลืมตัวไปหน่อย” ยัยเมย์ขอโทษแล้วยิ้มแห้ง ๆ
 
จากนั้นนายภูผาก็แนะนำเหมือนฝันตามมารยาท
 
“นี่น้องเหมือนฝัน รุ่นน้องที่คณะ เราพามาด้วยเพราะน้องเขามีญาติเป็นผู้อำนวยการที่นี่ เผื่อจะได้ให้ญาติช่วยดูแลแม่เราเป็นพิเศษ” นายภูผาพูดและผายมือไปยังเหมือนฝัน
 
“สวัสดีค่ะ พี่ ๆ หนูชื่อเหมือนฝันนะคะ เป็นรุ่นน้องพี่ภูผาค่ะ” เหมือนฝันสวัสดีฉันสองคน ดูท่าเธอจะจำไม่ได้ว่าฉันคือแม่หมอทับทิมสยาม ที่เธอเคยมาดูหมอด้วย
 
“อ๋อ..รุ่นน้องของภูผานั่นเอง ฝากดูแลแฟนพี่ด้วยนะคะ ไม่รู้ว่าอยู่มหาวิทยาลัยจะแอบมีผู้หญิงเข้ามาจีบบ้างหรือเปล่า แต่เผอิญพี่ไม่ค่อยชอบไปก้าวก่ายเรื่องส่วนตัวของเขาน่ะค่ะ ได้รู้จักน้องก็ดีเลย เดี๋ยวจะขอถามความประพฤติกันหน่อย” ฉันพูดออกตัวว่าเป็นแฟนนายภูผาแล้วยิ้ม
 
แต่ตอนนี้ทั้งสามคนกลับทำหน้าไม่ถูก โดยเฉพาะเหมือนฝันที่ทำหน้าเสีย
 
“พี่ภูผาคะ พี่คนนี้เป็น ฟะ..แฟนพี่ภูผาหรือคะ?” เหมือนฝันตกใจจนอดไม่ได้ที่ต้องถามภูผา
 
ส่วนนายภูผาก็ทำหน้านิ่ง ๆ แล้วส่ายหน้าเบา ๆ
 
“ใช่ครับ! ทับทิมเป็นแฟนของพี่เอง เราเพิ่งคบกันได้ไม่นาน” นายภูผาพูดยอมรับอย่างง่ายดาย เล่นเอายัยเหมือนฝันแทบช๊อคที่เห็นว่า ผู้หญิงหน้าบ้าน ๆ แบบฉัน เป็นแฟนของนายภูผา
 
ไอ้ต้าวน้อยนี่ใช้ได้! รับผิดชอบงานดีมาก สงสัยต้องให้โบนัสซะแล้ว หุหุ
 
ฉันฉีกยิ้มด้วยความเจ้าเล่ห์ ก่อนชวนทุกคนเข้าไปเยี่ยมแม่ของภูผาในห้อง และทิ้งให้ยัยเหมือนฝันยืนตะลึงกับคำพูดของนายภูผา
 
“เธอนี่ก็ร้ายเหมือนกันนะ แกล้งน้องเขาซึ่งๆหน้าเลย” นายภูผากระซิบกับฉันขณะที่เรากำลังเดิน
 
“ก็ใครใช้ให้นายไปกอดกับรุ่นน้องที่ลานจอดรถล่ะ เราก็เลยแกล้งบ้าง” ฉันกระซิบตอบ
 
“อ้อ..เธอเห็นตอนนั้นนั่นเอง มิน่าถึงได้ดูโมโห น้องเขาแค่จะล้มเราก็เลยเข้าไปช่วยพยุง ไม่มีอะไรมากไปกว่านั้น”
 
“แต่นายก็แมนดีนะ กล้ายอมรับว่าเป็นแฟนฉันต่อหน้าน้องเขา ไม่กลัวเรทติ้งตกหรือไง?”
 
“ไม่กลัว! ก็เราไม่ได้ชอบน้องเขานี่ จะปล่อยให้เขามีความหวังทำไม จริงไหม?” นายภูผาพูดหน้าตาย แล้วก้เปิดประตูเข้าห้องผู้ป่วย
 
“อึมม! นายคนนี้แปลกแฮะ มีสาวสวยน่ารักมาชอบก็ไม่สนใจ คงไม่ได้เป็นเกย์หรือนะ!” ฉันคิดในใจก่อนเดินตามนายภูผาเข้าไปในห้อง
 
แม่ของภูผากำลังตื่นอยู่ แต่ไม่สามารถขยับตัวได้มากนักเพราะไม่มีแรง แม้จะดูซูบผอมและมีริ้วรอยตามกาลเวลา แต่เธอก็ยังเป็นสาววัยกลางคนที่ยังดูสวยอยู่ หากบอกว่านายภูผาได้หน้าตาจากแม่ก็คงไม่ผิด
 
ภูผาแนะนำพวกเรากับแม่ของเขา พวกเราคุยกันเรื่องพื้น ๆ ทั่วไป สักพักก็ลากลับบ้านเพราะอยากให้เธอได้พักผ่อน
 
“ฉันกลับก่อนนะ แล้วค่อยคุยกัน” ฉันบอกภูผาขณะที่เดินมาส่งหน้าห้อง
 
“ขอบคุณสำหรับของเยี่ยมนะ แม่เราชอบกินผลไม้มาก เห็นผลไม้ที่เธอซื้อมาแล้วก็ชมว่าน่ากิน กลับบ้านดี ๆ นะ” ภูผาส่งฉันสองคนกลับ ขณะที่เหมือนฝันยืนอยู่ข้าง ๆ ด้วยสีหน้าที่ยังไม่หายจากอาการช็อค
 
“ทับทิมแล้วแกจะปล่อยให้ยัยเหมือนฝันนั่นกลับบ้านกับภูผาเหรอ?” ยัยเมย์ถามขึ้น
 
“ไม่เป็นไรหรอก! คนสวยจากภายในอย่างฉัน ใจดีอยู่แล้ว” ฉันตอบยัยเมย์ แล้วก็ยิ้มอย่างผู้ชนะ
 
เอาน่า! อย่างน้อยยัยเหมือนฝันก็เคยเป็นลูกค้าฉัน เหลือหน้าไว้ให้เธอบ้าง ก็ดูไม่เลวร้ายจนเกินไป จริงไหม โว โฮ โฮ!
 
......................
 
ค่ำวันนั้นนายภูผาก็โทรมาตามที่เราตกลงกันไว้ แม้จะคุยกันไม่นานแต่ก็ทำให้ฉันมีความสุข จนรู้สึกว่าคิดถูกแล้วที่ฉันเลือกที่จะมีความสุขในช่วงสั้น ๆ นี้
 
คืนนั้นฉันนั่งเขียนไดอารีเรื่องราวเอาไว้อ่านหลังจากที่โรคของฉันจะกลับมาอีกที เพื่อที่จะได้รู้ว่าตอนนี้ฉันมีความสุขขนาดไหน
 
โดยที่ไม่ได้รู้ตัวเลยว่า...
 
อีกไม่นาน....เรื่องร้ายที่น่ากลัว จะย่างกรายมาสู่ชีวิตอันเงียบสงบของฉัน
 
..........................
ตอนต่อไป
ตอนที่ 14 พวกเรา..ต้องการความช่วยเหลือจากคุณ