ความรัก...ชั่วพริบตา
ตอนที่ 25 เหตุการณ์ฝันที่แปลกประหลาด
“วันนี้ต้องขอรบกวนเวลาผู้พันสักหน่อยนะครับ ทางทีมสืบสวนของเราอยากรู้เรื่องของ.......” ผู้กององอาจบอกวัตถุประสงค์ให้ผู้พันตุ๋ยฟัง
 
“ไม่น่าเชื่อว่าเดี๋ยวนี้หน่วยสืบสวนจะเชื่อเรื่องพวกนี้นะครับ แต่ก็ดีนะ ของพวกนี้ไม่เจอกับตัวก็ไม่รู้ว่ามันมีจริง”  ผู้พันตุ๋ยพูดตอบกลับมา
 
จากนั้นผู้พันตุ๋ยก็เริ่มเล่าเรื่องราวของที่ดินตรงสะพาน ซึ่งก็จะเหมือนกับที่จ่ามีเล่า แต่พอมาถึงเรื่องของผู้รับเหมา รายละเอียดนั้นก็มีเรื่องใหม่เพิ่มเติมเข้ามา
 
“ทางผู้รับเหมาเอง ก็เคยติดต่อผมเรื่องทำพิธี แต่ผมไม่รับเพราะไม่อยากไปวุ่นวายเกี่ยวกับสุสานโบราณ เลยให้เขาไปติดต่อหมอเขมรคนหนึ่งที่ศรีสะเกษ ที่มีอาคมแก่กล้าของจริง แต่จะรู้จักกันในวงแคบ”
 
“แล้วผู้พันยังมีเบอร์หรือที่อยู่ของหมอคนนี้อยู่ไหม?” ผู้กององอาจถามขึ้น
 
“มีครับ! แต่เบอร์โทรติดต่อไม่ได้หลายปีแล้ว สงสัยจะเปลี่ยนเบอร์ใหม่ ส่วนที่อยู่เดี๋ยวผมให้ลูกน้องโทรบอกผู้กองนะครับ” ผู้พันตุ๋ยพูดเสร็จก็ขอเบอร์ติดต่อเจ้าหน้าที่
 
จากนั้นผู้กององอาจก็สอบถามเรื่องอื่นอีกเกือบชั่วโมง จนกระทั่งปล่อยให้ผู้พันตุ๋ยกลับ
 
แต่ก่อนที่ผู้พันตุ๋ยจะกลับ ก็หันมาพูดกับผู้กององอาจว่า
 
“ผู้กองผมขอเตือนอะไรอย่างหนึ่งนะ บางเรื่องเราก็ไม่ควรไปยุ่งกับมัน เพราะไม่รู้ว่ามันเกี่ยวข้องกับคดีที่ผู้กองกำลังสืบอยู่หรือไม่ แต่ผมบอกได้เลยว่าสิ่งที่ผู้กองกำลังจะยุ่งมันน่ากลัวและอันตรายถึงชีวิต”
 
เมื่อผู้พันตึ๋งไปแล้ว ผู้กองก็เรียกพวกเรามาประชุม
 
“ถ้าได้ที่อยู่หมอเขมรคนนั้นจากผู้พันตุ๋ยแล้ว ก็ส่งคนไปสืบดูแล้วถามเรื่องเหตุการณ์ในตอนนั้นให้ละเอียด” ผู้กององอาจสั่งทีมงานให้จัดการเรื่องนี้
 
“ส่วนพวกคุณตอนที่อยู่ในห้อง มีข้อมูลอะไรเพิ่มเติมบ้างไหม?” ผู้กององอาจถามเหล่าผู้นำทาง
 
“จิตสัมผัสของผมบอกได้เลยว่า ทั้งสองคนเป็นผู้ใช้อาคมแน่นอน โดยเฉพาะผู้พันตึ๋ง เขาเลี้ยงวิญญาณผีไว้กับตัวด้วย” หมอเรนรายงานคนแรก
 
“เป็นพวกกุมารหรือรักยมประมาณนั้นใช่ไหมครับ?” ผู้กองถามต่อ
 
“ไม่แน่ใจครับ! แต่รู้ว่าเป็นวิญญาณที่แข็งแกร่งพอตัวและวนเวียนอยู่รอบตัวของเขา” หมอเรนอธิบาย
 
“ส่วนผมใช้ยามสามตาดูแล้ว พวกเขาเกี่ยวข้องกับฆาตกรแน่นอน!” พ่อหมอสามตาพูดเรื่องที่น่าตะลึงออกมา
 
“เกี่ยวข้องกับฆาตกร! พ่อหมอพูดเรื่องจริงใช่ไหม?” ผู้กององอาจถามขึ้นด้วยความตื่นเต้น
 
“จริงครับ! ผมเชื่อมโยงทั้งสองคนกับกุญแจมือที่เราเคยใช้กับฆาตกร ผลสรุปว่าทั้งสองมีความเกี่ยวข้องกับฆาตกรครับ” พ่อหมอสามตาชี้แจงรายละเอียด
 
“ดีมาก! ส่งคนไปเฝ้าดูความเคลื่อนไหวของทั้งสองคนด้วย หากมีอะไรผิดปกติให้รายงานด่วน แล้วก็สืบประวัติทั้งสองคนอย่างละเอียดด้วยนะ!” ผู้กององอาจสั่งการด้วยความรวดเร็ว
 
“ส่วนหนูคงต้องขอวันเดือนปีเกิดและเวลาตกฟากของทั้งสองคนเพื่อทำการทำนายค่ะ” ฉันบอกกับผู้กององอาจ ก่อนที่ผู้กองจะสั่งให้ทีมงานไปค้นทะเบียนราษฎร์แล้วส่งข้อมูลให้ฉัน
 
ตั้งแต่สืบคดีมา นี่เป็นครั้งแรกที่มีการพูดถึงผู้เกี่ยวข้องกับฆาตกร ทำให้ผู้กององอาจรู้สึกมีความหวังขึ้นมา
 
“ฆาตกรหมายเลข 6 พวกเราใกล้จะจับแกได้แล้ว!” ผู้กององอาจพูดเบา ๆ พลางหันไปมองที่แฟ้มคดี
 
........................
 
เย็นวันนั้น พวกเราออกมาดูพื้นที่ตรงสะพาน “ฉัฐมาพร” ซึ่งเป็นสะพานแขวนที่ดูสวยงาม แต่เมื่อลงจากรถแล้ว ฉันก็รู้สึกขนลุกซู่ทันที
 
“สะพานแห่งนี้ของแรงสมคำร่ำลือจริง ๆ” หมอเรนพูดขึ้นหลังลงจากรถเช่นกัน
 
“ผมเคยไปที่สุสานหรือสถานที่ที่มีวิญญาณมากมาย แต่ไม่เคยมีที่ไหนให้ความรู้สึกรุนแรงเท่าที่นี่มาก่อน” หมอเรนพูดเสริม
 
“ผมใช้ศาสตร์ยามสามตาดูแล้ว พวกเราไม่ควรอยู่ที่นี่นาน ต้องรีบออกจากที่นี่ก่อนตะวันตกดิน ไม่อย่างนั้นจะเกิดเรื่องร้าย เพราะเจ้าของที่นี่รู้แล้วว่าพวกเรามา” พ่อหมอสามตาพูดขึ้นด้วยความกังวล ทำให้ทุกคนเริ่มหวาดกลัว
 
“เอาล่ะ! แยกย้ายกันดูพื้นที่ หกโมงเย็นเราจะออกเดินทางกลับ” ผู้กององอาจสั่งงานอย่างเร่งด่วนเพื่อให้ทุกคนเริ่มงาน ส่วนฉันรู้สึกเหมือนมีคนกำลังจ้องมองอยู่ จึงยืนอยู่ที่เดิมและกอดแขนนายภูผา
 
“เธอเป็นอะไรหรือเปล่า หนาวหรือ?” ภูผาถามฉันเมื่อเห็นฉันเข้าไปกอดแขน
 
“ฉันขอกอดแขนหน่อย นายอย่าว่าฉันนะ ฉันไม่ได้หนาวแต่แค่รู้สึกไม่ดีกับที่นี่ มันเหมือนมีคนกำลังจ้องมองอยู่ตลอดเวลา” ฉันอธิบายให้ภูผาฟัง
 
“ไม่ต้องกลัวนะ! นี่ยังเป็นช่วงกลางวัน แถมคนอยู่ตั้งเยอะ อีกสักพักพวกเราก็กลับแล้ว” ภูผาปลอบฉัน พลางยืนนิ่งให้ฉันกอดแขนต่อไป
 
หลังดูสถานที่อยู่พักใหญ่ พวกเราก็เดินทางกลับมาที่พัก ที่เป็นโรงแรมแห่งหนึ่ง
 
หลังจากกลับมา พวกเราก็กินข้าวเย็นรวมถึงพูดเกี่ยวกับกำหนดการของวันพรุ่งนี้และแยกย้าย ฉันก็อาบน้ำและรีบเข้านอนเพราะง่วงมาก โดยมีเจ้าข้าวตูนอนเป็นเพื่อน
 
และแล้วคืนนั้นฉันก็ฝันประหลาด!
 
ฉันฝันว่าตัวเองอยู่ในชุดโบราณ ที่ไม่ใช่ชุดแบบผ้าสไบไทย แต่มันเหมือนชุดนางรำที่มีเครื่องสวมหัวและผ้าคาดอก ประดับด้วยเครื่องประดับจำพวกสร้อยทองและเพชรนิลจินดา
 
ร่างของฉันกำลังเดินตามผู้หญิงสองคนอยู่ในปราสาทหินแห่งหนึ่งที่ไม่ใหญ่มาก แต่ก็แกะสลักอย่างสวยงาม ปราสาทแห่งนี้ตั้งอยู่ริมแม่น้ำ
 
เบื้องหน้ามีชายวัยกลางคนผู้หนึ่ง นั่งอยู่บนแท่นหินที่ทำเหมือนที่นั่ง เขาแต่งตัวหรูหรา ใส่ผ้านุ่งสีทองเหมือนเป็นชนชั้นปกครอง ผิวคล้ำ รูปร่างผอมสูง หน้าตาของชายผู้นี้ดุดันแบบคนสมัยก่อน ไม่หล่อเหลา แต่ก็มีอำนาจและน่ายำเกรง
 
“ข้ารอเจ้ามานานแล้ว สนมเอกของข้า หลายพันปีที่เจ้าจากไป สุดท้ายก็กลับมา” ชายผู้นั้นพูดกับฉัน ขณะที่ฉันนั่งคุกเข่าตามคนที่นำทางมา
 
น่าแปลกที่ฉันไม่สามารถพูดอะไรตอบกลับได้ทั้ง ๆ ที่อยู่ในความฝันของตัวเอง ไม่นานชายโบราณคนนั้นก็เดินมาหาฉันที่กำลังคุกเข่า แล้วใช้มือช้อนคางฉันขึ้นมา ก่อนพูดว่า
 
“จากนี้ไปเราจะกลับมาอยู่ด้วยกันอีกครั้ง ข้าจะไม่ให้เจ้าหนีหายไปจากข้าอีก แม่ทับทิมสนมเอกของข้า”
 
“ส่วนชายคนรักที่อยู่กับเจ้าวันนี้ ข้าจะจัดการมันเสีย เจ้าจะได้ไม่ต้องแบ่งใจไปให้ใครอีก ฮ่า ๆ ๆ ”
 
....................................
 
ตอนต่อไป
ตอนที่ 26 พบวิญญาณโบราณ