ความรัก...ชั่วพริบตา
ตอนที่ 31 คำสัญญา ความรักและกาลเวลา
หลังจากที่ความทรงจำในอดีตได้กลับมาราวกับการระลึกชาติ ฉันก็ไม่ได้กลัววิญญาณโบราณเหมือนเคย
 
“จิตเส! ท่านยังรอข้าอยู่อีกหรือ?” ฉันถามชายที่ยืนอยู่ด้านหน้า ตอนนี้ฉันไม่ได้มองเห็นเขาเป็นเจ้าหน้าที่ ๆ ถูกผีเข้า แต่เห็นเป็นร่างของชายในยุคโบราณที่เฝ้ารอฉันมาหลายพันปี
 
“กูรอมึงมาเกิดใหม่เป็นเวลานานโดยไม่ไปผุดไปเกิด มึงยังไม่เชื่ออีกรึ?” จิตเสตอบฉัน
 
“เพื่อรอข้า! แต่ทำไมท่านถึงได้ฆ่าผู้คนที่ไม่รู้เรื่อง ? ” ฉันถามต่อ
 
“อ้ายอีพวกนั้นมันสมควรตาย ทั้งมเหสีของข้าและพวกพ้องของมันที่วางยาพิษมึง อีกทั้งพวกโลภที่อยากได้สมบัติของกู หรือแม้แต่ไอ้คนที่จะทำลายสุสานเพื่อสร้างสะพาน มันถึงกับเอาหมอผีมาสู้แต่ก็สู้ไม่ได้ จนสุดท้ายทำได้แค่สะกดวิญญาณด้วยการสังเวยพวกผู้หญิงท้องแก่ จนวันหนึ่งผนึกของมันคลายลง กูจึงต้องไล่ตามฆ่าคนที่เกี่ยวข้องกับสะพานเพื่อให้หลุดจากมนต์สะกด เพราะไม่ให้ใครมาทำลายหลุมศพของมึง!” จิตเสบอกเล่าเรื่องราวทั้งหมด
 
 ซึ่งแท้จริงแล้ว...ก็เพื่อปกป้องหลุมศพของตัวฉันในอดีต
 
“มาอยู่ด้วยกันเถอะอีทับทิม กูพิสูจน์ให้มึงเห็นแล้วว่ากูรักมึงมากแค่ไหน ทำไมมึงยังไม่เชื่อกูอีก?” จิตเสเดินมาหาฉัน ตอนนี้เขายืนอยู่ตรงหน้า
 
ภาพความทรงจำของชายผู้มีอำนาจคนหนึ่งในอดีต ที่ยอมทิ้งทุกอย่างเพื่อให้ได้อยู่กับฉัน หวนกลับมาในความทรงจำอีกครั้ง
 
“อีทับทิม! ถ้ามึงยอมมาอยู่กับกู กูสัญญาว่าจะไม่ฆ่าใครอีก กูกับมึงจะได้อยู่ด้วยกันไปตลอดกาล” จิตเสพูดด้วยน้ำเสียงที่อ่อนโยน ผิดกับตอนแรกอย่างสิ้นเชิง
 
“จิตเส! ท่านจงฟังข้า ข้าดีใจที่ในชีวิตนี้ได้เจอกับชายที่รักจริง ทำทุกอย่างเพื่อข้าและยึดมั่นในคำสัญญา”
 
“แต่แท้จริงแล้ว ไม่ว่าภพชาติก่อนหรือตอนนี้ ข้าไม่เคยรักท่านเลย ที่ข้ายอมแต่งงานเป็นสนมเอกของท่าน ก็เพราะข้าอยากตอบแทนบุญคุณของท่านที่ช่วยข้าและตระกูลไว้ และยาพิษนั้นข้าเป็นคนใส่มันลงไปในจอกเหล้าเอง!”
 
“ไม่! เป็นไปไม่ได้! อีทับทิม มึงพูดอะไรออกมารู้ตัวไหม?” จิตเสตกใจ เมื่อรู้ความจริงในเรื่องราวที่ผ่านมา
 
“มันคือเรื่องจริง ข้าต้องแต่งงานกับท่านเพราะหน้าที่ทายาทของตระกูล เมื่อทำพิธีเสร็จแล้วก็หมดหน้าที่ แต่หลังจากนั้นมันคือชีวิตของข้า ข้าจึงเลือกที่จะตายเพราะไม่อยากใช้ชีวิตอยู่ด้วยความหลอกลวง” ฉันพูดความรู้สึกที่แท้จริงออกมา มันคือสิ่งที่ฉันอยากพูดกับจิตเสเมื่อหลายพันปีก่อน แต่ไม่มีโอกาสได้พูด
 
“ไม่...ไม่จริง! อีทับทิม มึงกำลังพูดปดกับกู!” จิตเสเริ่มหน้าเสีย หลังจากที่ได้ยินความจริงเพิ่มเติม
 
“จิตเส! วันนี้ท่านรู้ความจริงแล้ว ท่านจงปล่อยวางและไปเกิดใหม่เสียเถิด เรื่องของเราในอดีตมันคือกรรมที่เราสองคนได้ทำร่วมกันมา แต่พวกเราได้ชดใช้มันไปหมดแล้ว ท่านอย่าได้สร้างกรรมใหม่เพิ่มอีกเลย จากนี้ไป ไม่มีทับทิมคนเดิม...ที่ท่านรออีกแล้ว” ฉันพูดพลางร้องไห้ออกมาอีกครั้ง
 
“ไม่! กูไม่ยอม ที่มึงไม่รักกู ก็เพราะไอ้หนุ่มชายชู้คนนี้ใช่ไหม ดี! กูจะฆ่ามันเสีย มึงจะได้ไม่ปันใจไปให้ชายใดอีก!” จิตเสเริ่มดุร้ายอีกครั้ง เขาหันมองไปที่ภูผาพร้อมทำหน้าตาโกรธแค้น ก่อนจะพุ่งตัวออกไปหมายจะทำร้ายภูผา
 
“ไม่นะจิตเส! ชายคนนี้ไม่เกี่ยวข้องด้วย!” ฉันร้องตะโกนเสียงดังด้วยความตกใจ พลางพุ่งตัวเข้าไปห้าม
 
แต่ก็ช้าเกินไป! เพราะตอนนี้จิตเส ใช้มือขวาคว้าคอของภูผา แล้วยกชูสูงขึ้นด้วยพละกำลังที่เหลือเชื่อ
 
“อั่กกก!” ภูผาทำสีหน้าเจ็บปวดเพราะถูกบีบคอและกำลังจะหายใจไม่ออก
 
“ไม่ว่าจะชาติภพไหน ก็จะไม่มีใครแย่งมึงไปจากกูได้ จำไว้อีทับทิม! ฮ่า ๆ ๆ ” จิตเสพูดแล้วหัวเราะด้วยความสะใจ ส่วนฉันในตอนนี้..ก็กำลังไปดึงแขนข้างที่กำลังบีบคอของภูผาเพื่อช่วยเหลือและแย่งตัวของภูผาออกมา
 
ทันใดนั้นเอง!
 
สายสิญจน์ที่พันเป็นเหมือนเชือกเส้นใหญ่ ก็คล้องลงที่คอของเจ้าหน้าที่ ๆ จิตเสกำลังสิงอยู่ พร้อมเสียงสวดคาถาที่ดังมาจากด้านหลัง
 
“โอม! วิญญาณร้ายจงสยบ ....พายะสะเต กัมเมนะ วินาสสันติ!” พ่อหมอสามตากำลังท่องคาถาหลังจากคล้องสายสิญจน์ที่ปลุกเสกหลังจากรอจังหวะมานาน
 
“โอ๊ย! ร้อนนน!” เมื่อถูกสายสิญจน์คล้องคอ จิตเสก็ร้อนทั่วร่างเหมือนตกอยู่ในกองไฟ จนต้องปล่อยมือจากคอของภูผา แล้วดิ้นทุรนทุรายอยู่ที่พื้น ด้วยความเจ็บปวด
 
“ไอ้ผีโบราณ แกประมาทเกินไปคิดว่าพวกเราทำอะไรไม่ได้อย่างนั้นหรือ เราก็แค่เอาหนูทับทิมมาเป็นเหยื่อล่อให้แกประมาท จะได้ใช้สายสิญจน์คล้องคอของแกเพื่อไม่ให้หนีไปไหน จะได้ทำพิธีสะกดวิญญาณได้สะดวกขึ้นไง คราวนี้แกหนีไม่พ้นแน่” พ่อหมอสามตาพูดขึ้น หลังจากสวดคาถาเสร็จ พลางยืนดูร่างของเจ้าหน้าที่คนนั้นนอนดิ้นด้วยความเจ็บปวด
 
“ปล่อยกู! พวกมึงนึกหรือว่าของแค่นี้จะทำอะไรกูได้ ปล่อยกูเดี๋ยวนี้ ก่อนที่กูจะฆ่าพวกมึงทั้งหมด!” จิตเสร้องตะโกนขู่ ขณะที่กำลังนอนดิ้นอยู่ที่พื้น
 
“ภูผา! นายไม่เป็นไรนะ?” ฉันรีบวิ่งเข้าไปดูภูผาหลังจากที่ร่างของเขาตกลงสู่พื้น
 
“แค่ก ๆ ๆ ไม่เป็นไร! ตอนนี้เราหายใจได้แล้ว เธอไม่เป็นไรนะ?” ภูผาถามฉันต่อ
 
โฮ่ง! เสียงเห่าของข้าวตูดังขึ้น มันรีบวิ่งเข้ามาหาฉันทันที หลังจากที่เห็นว่าวิญญาณโบราณกำลังจะถูกจัดการ
 
 “ข้าวตู! ฮือๆๆ” ฉันอุ้มข้าวตูมากอดด้วยความสงสาร หลังจากเห็นมันถูกทำร้ายก่อนหน้านี้
 
“ทับทิม! เธอดูนั่นสิ! พ่อหมอสามตากำลังทำพิธีสะกดวิญญาณแล้ว!” ภูผาชี้ให้ฉันดูพ่อหมอสามตา ที่ตอนนี้กำลังนั่งลงแล้วหยิบของออกจากย่ามเพื่อทำพิธีสะกดวิญญาณต่อ
 
“หมอเรน! ทางนั้นเรียบร้อยไหม?” พ่อหมอสามตาตะโกนถามหมอเรน หลังจากที่ลุกไปดูเจ้าหน้าที่ทั้งห้าคน ที่ถูกพวกวิญญาณร้ายโบราณทำร้ายในตอนแรก
 
“ทุกคนปลอดภัย โหงพรายของผมกินวิญญาณเหล่านั้นไปหมดแล้ว” หมอเรนตะโกนตอบกลับมา
 
“ดีมาก! ทีนี้แหละจะได้ทำพิธีสะกดวิญญาณเสียที!” พ่อหมอสามตาโล่งอก ที่ตอนนี้ทุกคนปลอดภัย ก่อนตั้งใจทำพิธีในขั้นตอนสุดท้าย
 
“ปล่อยกู อีทับทิมมึงบอกให้พวกมันปล่อยกูเดี๋ยวนี้!” จิตเส ในร่างของเจ้าหน้าที่คนนั้น นอนดิ้นพลางตะโกนเรียกฉัน
 
ตอนนี้ฉันที่มองเห็นภาพกลับสงสารจิตเสอย่างจับใจ ส่วนพ่อหมอสามตาหยิบหม้อดินเผาออกมาพร้อมกับท่องคาถาเหมือนที่ฉันเคยเห็นในหนัง
 
ตอนนี้ท้องฟ้ามืดครึ้มมากกว่าเดิม ลมแรงพัดกรรโชกอย่างรุนแรง แต่พิธีก็ดำเนินต่อไป
 
จนกระทั่ง!
 
“โอม....จงมาสถิตอยู่ ณ ที่นี้!” พ่อหมอสามตาตะโกนคาถาบทสุดท้าย
 
เงาดำสายหนึ่งค่อย ๆ ลอยออกมาจากร่างของเจ้าหน้าที่มายังหม้อดินเผา พร้อมเสียงร้องด้วยความเจ็บปวดของวิญญาณจิตเส
 
“โอ๊ย! อีทับทิมช่วยด้วย!”
 
...............................
 
ตอนต่อไป
ตอนที่ 32 รักนั้น...ซับซ้อนมากกว่าจะเข้าใจ